เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สำนักวิจัยชื่อดัง แกลลัป โพล และหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ ประกาศแยกทางกันอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ (18) ปิดตำนานความร่วมมือระหว่างกันนานกว่า 20 ปีในการจัดทำผลสำรวจความเห็นด้านต่างๆ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
คำแถลงของแกลลัป อิงก์ ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และที่เมืองโอมาฮา มลรัฐเนบราสกา ที่มีการเผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ระบุว่า การประกาศยุติความร่วมมือระหว่างแกลลัปและหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์เป็นไปโดยความเห็นชอบร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และนับตั้งแต่ปี 2013 นี้เป็นต้นไปทั้งแกลลัปและยูเอสเอทูเดย์จะดำเนินการจัดทำผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ อย่างเป็นอิสระตามทิศทางของตัวเอง
จิม คลิฟตัน ประธานและซีอีโอของแกลลัปออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่า ขณะนี้แกลลัปกำลังมองหาพันธมิตรรายใหม่เข้ามาแทนที่หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ ด้วยการเจรจากับหนังสือพิมพ์ชื่อดังอีกแห่งหนึ่ง โดยซีอีโอของแกลลัปย้ำ ยังไม่มีแนวคิดดังกล่าว
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับคณะผู้บริหารหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ ซึ่งมีฐานอยู่ในมลรัฐเวอร์จิเนียออกมาเปิดเผยว่า ทางยูเอสเอทูเดย์กำลังเจรจากับสำนักจัดทำผลสำรวจความคิดเห็นรายอื่น ถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันในอนาคต
การประกาศยุติความร่วมมือที่ดำเนินมานานกว่า 20 ปีของแกลลัป โพล และยูเอสเอ ทูเดย์ มีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่าคณะผู้บริหารของยูเอสเอทูเดย์รู้สึกไม่พอใจการจัดทำผลสำรวจความคิดเห็นในระยะหลังของแกลลัป โดยเฉพาะระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งแกลลัปเป็นเพียงสำนักเดียวในสถาบันจัดทำโพล 23 แห่งของสหรัฐฯ ที่ให้มิตต์ รอมนีย์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน มีคะแนนนิยมทิ้งห่างประธานาธิบดีบารัค โอบามาแบบผิดสังเกต และผลสำรวจของแกลลัปเมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งจริงที่ออกมา ยังมีค่าความผิดพลาดสูงถึง 7.2 จุด ซึ่งถือว่าเป็นโพลที่มีความ “คลาดเคลื่อนสูงที่สุด” ในการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯครั้งที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2006 แกลลัปเคยต้องประกาศแยกทางกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นมาแล้วเช่นกัน โดยในครั้งนั้นแกลลัปอ้างเหตุผลว่าต้องการยุติความร่วมมือกับซีเอ็นเอ็นเพราะสถานีดังกล่าวมี “เรตติ้งต่ำ” ขณะที่ทางซีเอ็นเอ็นได้ตอบโต้กลับโดยยืนยันว่าไม่อาจร่วมงานกับแกลลัปได้ต่อไป เพราะสำนักวิจัยแห่งนี้ขาดความเป็นมืออาชีพ