รอยเตอร์ - ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ให้คำมั่นกับญี่ปุ่นในวันศุกร์ (18) ว่า สหรัฐฯ จะสนับสนุนโตเกียวในประเด็นพิพาทแย่งชิงหมู่เกาะกับปักกิ่ง พร้อมเชื้อเชิญนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะเยือนกรุงวอชิงตันในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้เพื่อพบปะหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา
คลินตันได้จัดการประชุมพร้อมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศ ฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น โดยทั้งสองฝ่ายต่างให้คำมั่นสัญญาว่าความสัมพันธ์ทางด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศจะยังคงเหนียวแน่น หลังอาเบะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
"ความเป็นพันธมิตรของเรากับญี่ปุ่นจะยังเป็นหลักสำคัญของข้อตกลงของอเมริกันกับภูมิภาคนี้" คลินตันกล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยหมายถึงความร่วมมืออย่างกว้างขวางในทุกด้านตั้งแต่การบรรเทาภัยพิบัติ ไปจนถึงประเด็นนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
คลินตัน ซึ่งมีกำหนดหมดวาระดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในอีกไม่กี่สัปดาห์ ยังยืนยันว่า สหรัฐฯ จะเคียงข้างพันธมิตรอันยาวนานแห่งนี้ ในข้อขัดแย้งกับจีน ประเด็นหมู่เกาะเซงกากุ หรือเตี้ยวอี๋ว์ ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งทั้งโตเกียว และปักกิ่งต่างอ้างกรรมสิทธิ์ในดินแดนดังกล่าว
ความตึงเครียดจากกรณีพิพาทหมู่เกาะแห่งนี้ได้โหมรุนแรงขึ้นอีกครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเป็น 1 ในประเด็นขัดแย้งด้านดินแดนหลายๆ แห่งของแดนมังกร ซึ่งสถานการณ์เลวร้ายลง ขณะที่สหรัฐฯ เปลี่ยนความสนใจด้านประเด็นความมั่นคงไปยังภูมิภาคเอเชีย
"แม้ว่าสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่ในสถานะที่มีอำนาจเด็ดขาดในหมู่เกาะดังกล่าว แต่เรายอมรับว่าดินแดนนั้นเป็นของรัฐบาลญี่ปุ่น" คลินตันกล่าว เป็นการตอกย้ำท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อประเด็นพิพาทดังกล่าวมายาวนาน
"เราคัดค้านการกระทำฝ่ายเดียว ซึ่งต้องการบ่อนทำลายรัฐบาลญี่ปุ่น และเราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการเพื่อป้องกันเหตุการณ์ใดๆ และแก้ไขความไม่ลงรอยกันด้วยสันติวิธี" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เสริม
ขณะที่คิชิดะส่งสัญญาณว่า อาเบะไม่ต้องการที่จะให้ความขัดแย้งบานปลาย แม้เขาเคยประกาศว่าจะใช้มาตรการแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทกับจีนในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งก็ตาม
คลินตันยังประกาศว่า นายกฯ ญี่ปุ่นได้รับเชิญไปยังกรุงวอชิงตัน ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อร่วมหารือกับโอบามา หลังจากตารางงานอันแน่นเอี้ยดของผู้นำสหรัฐฯ ทำให้อาเบะต้องเลื่อนการเดินทางเยือนสหรัฐฯ เป็นที่หมายแรกหลังรับตำแหน่งออกไป และเปลี่ยนมาเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทนในสัปดาห์นี้