xs
xsm
sm
md
lg

มาเลเซียครองอันดับ 1 สถานที่ท่องเที่ยวเป็นมิตรกับชาวมุสลิมที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ย่านร้านอาหารฮาลาลใกล้ถนนอาหรับในสิงคโปร์ ซึ่งเอื้ออำนวยต่อนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม
เอเอฟพี - มาเลเซียคว้าอันดับ 1 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก ตามผลสำรวจที่เผยแพร่ วันนี้ (16) ขณะที่ท่าอากาศยานนาชาติกัวลาลัมเปอร์ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทยได้ตำแหน่งสนามบินที่เอื้ออำนวยต่อนักเดินทางมุสลิมมากที่สุดด้วย

ผลการสำรวจของเครสเซนเทรติง ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมในสิงคโปร์ จัดอันดับการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในแต่ละประเทศ โดยใช้เกณฑ์ด้านความปลอดภัย ความสะดวกในการเข้าถึงอาหารฮาลาล และสถานที่ทำละหมาด ตลอดจนบริการในโรงแรมที่จำเป็นสำหรับชาวมุสลิม

ด้วยระดับคะแนนตั้งแต่ 1-10 ซึ่ง 10 ถือเป็นคะแนนสูงสุด มาเลเซียนำมาเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 8.3 จากทั้งหมด 50 ประเทศ ที่ถูกสำรวจ โดยอียิปต์ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยคะแนน 6.7 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตุรกีครองอันดับ 3 ด้วยคะแนน 6.6 คะแนน

ขณะที่ ซาอุดีอาระเบียได้คะแนน 6.4 ตามมาเป็นที่ 4 สิงคโปร์ 6.3 คะแนนเป็นลำดับที่ 5 อินโดนีเซีย โมร็อกโก และจอร์แดน ครองอันดับ 6 ร่วมกัน ด้วยคะแนน 6.1 ส่วนลำดับที่ 7 ได้แก่ บรูไน กาตาร์ ตูนิเซีย และโอมาน ซึ่งมีคะแนนเท่ากันที่ 6.0

ฟาซาล บาฮาร์ดีน ผู้บริหารเครสเซนเทรติงกล่าวว่า การสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในมุมมองของนักท่องเที่ยว ซึ่งหมายถึงเป็นการวัดความสะดวกสบายในการเข้าถึงอาหาร และที่พักตามมาตรฐานฮาลาลสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ใช่คนในท้องถิ่น

“มาเลเซียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่คุณสามารถหาสถานที่ทำละหมาดได้ในทุกๆ ที่ตั้ง ทั้งในห้างสรรพสินค้า หรือสนามบิน” ฟาซาลกล่าว โดยเสริมว่าอินโดนีเซียแม้จะเป็นประเทศที่มีประชากรชาวมุสลิมมากที่สุดในโลกก็ยังไม่ดีเทียบเท่า

ในด้านเมืองที่เป็นแหล่งชอปปิ้งที่สามารถหาอาหารฮาลาล และสถานที่ละหมาดได้ง่ายที่สุดนั้น ดูไบ และกัวลาลัมเปอร์ก็คว้าอันดับ 1 ไปครอง ตามด้วยอิสตันบูล เจดดาห์ ไคโร อาบูดาบี นิวเดลี ลอนดอน และโดฮา

ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิของไทย และสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ถูกจัดให้เป็นสนามบินที่เป็นมิตรที่สุดสำหรับนักเดินทางชาวมุสลิม

นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมจับจ่ายใช้เงินกันมากขึ้นในอัตราที่โตเร็วกว่าทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสูงทะลุ 192,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2020 ขึ้นจาก 126,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2011 ตามผลสำรวจโดยเครสเซนเทรติง และอีกบริษัท ซึ่งเผยแพร่ในปีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น