ฮือฮา! รบ.มะกัน-กีวีแอบทดลอง “ระเบิดสึนามิ” หวังใช้ “คลื่นยักษ์” ทำลายชาติศัตรู

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลสหรัฐฯ และนิวซีแลนด์แอบทำการทดลอง “ระเบิดสึนามิ” แบบลับสุดยอดในมหาสมุทรแปซิฟิก ชี้อาวุธมหาประลัยชนิดดังกล่าวซึ่งใช้การจุดระเบิดใต้น้ำจะก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ขนาดความสูงไม่ต่ำกว่า 33 ฟุต ซึ่งมีอานุภาพมากพอในการทำลายเมืองชายฝั่งของประเทศที่เป็น “ศัตรู” ได้ภายในไม่กี่อึดใจ

รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากการค้นคว้าแฟ้มลับทางทหารของเรย์มอนด์ ริชาร์ด วารู นักเขียนและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังซึ่งมีเชื้อสายชนเผ่าเมารีระบุว่า การทดลองลับสุดยอดดังกล่าวของรัฐบาลสหรัฐฯ และนิวซีแลนด์ทำขึ้นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้น่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างหมู่เกาะนิว คาเลโดเนียของฝรั่งเศส กับนครโอกแลนด์ของนิวซีแลนด์ ภายใต้รหัสปฏิบัติการ “โปรเจกต์ซีล” ตั้งแต่มิถุนายน ค.ศ. 1944 ก่อนจะยุติโครงการไปในช่วงต้นปี 1945

วารูอ้างว่าพบข้อมูลทางทหารที่ระบุ “ระเบิดสึนามิ” ดังกล่าวถูกคาดหมายจากบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งในรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงในกองทัพว่า อาจเป็นอาวุธทำลายล้างโลกชนิดใหม่ที่เป็นคู่แข่งของ “ระเบิดนิวเคลียร์” จากการที่กลุ่มของคลื่นยักษ์ (อย่างน้อย 10 ลูก) ที่เกิดจากการจุดระเบิดใต้มหาสมุทรจะส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 33 ฟุตเข้าทำลายเมืองชายฝั่งของประเทศที่เป็นเป้าหมาย โดยสามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของผู้คนได้เป็นจำนวนมากภายในระยะเวลาไม่นาน ขณะที่อาคารบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ของศัตรูก็จะถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองไม่ต่างจากการใช้นิวเคลียร์

วารูซึ่งเพิ่งตีพิมพ์ผลงานเขียนเล่มล่าสุด “Secrets & Treasures” เมื่อปีที่แล้วระบุว่า สหรัฐฯ และนิวซีแลนด์ทำการทดลองระเบิดสึนามิกว่า 3,700 ลูก ณ พื้นที่ทดสอบบริเวณน่านน้ำใกล้เกาะนิว คาเลโดเนีย รวมถึงที่คาบสมุทรวังกาปาราอัว ใกล้เมืองโอกแลนด์ โดยโครงการทดลองลับสุดยอดดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นมาจาก “อี เอ กิบสัน” เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ที่สังเกตเห็นการเกิดคลื่นขนาดใหญ่ หลังการทิ้งระเบิดทำลายแนวปะการังที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือตามหมู่เกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงสงคราม นำไปสู่ความเป็นไปได้ในการสร้าง “ระเบิดสึนามิ” เพื่อนำคลื่นมาเป็นอาวุธทำลายล้าง

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า โครงการลับดังกล่าวถูกยุบในช่วงต้นปี 1945 หลังผู้เชี่ยวชาญอเมริกันลงความเห็นว่า “ระเบิดสึนามิ” 1 ลูกไม่มีอานุภาพมากพอในการทำลายพื้นที่เป้าหมายได้ และการจะใช้อาวุธชนิดนี้ให้ประสบผลสำเร็จยังจำเป็นต้องใช้วัตถุระเบิดอย่างน้อย “2 ล้านกิโลกรัม” วางเป็นแนวห่างจากชายฝั่งที่เป็นเป้าหมายราว 5 ไมล์