เอเอฟพี - คอบครัวเหยื่อถูกรุมโทรมบนรถเมล์ บอกเมื่อวันจันทร์(31) พวกเขาคงไม่รู้สึกสงบจนกว่าฆาตรกรถูกแขวนคอ ขณะที่ตำรวจเสร็จสิ้นการสืบสวนแล้ว ก่อนดำเนินการตั้งข้อหาเหล่าผู้ต้องสงสัยภายในสัปดาห์นี้
ขณะที่พรรคคองเกรสในรัฐบาลผสม ผลักดันให้ลงโทษพวกก่ออาชญากรรมทางเพศหนักหน่วงยิ่งขึ้น ในนั้นรวมถึงการตอนทาเคมี ทางเจ้าหน้าที่ในนิวเดลี ก็กำลังการจัดตั้งสายด่วนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่สตรีภายในเมืองซึ่งได้รับฉายาว่า "เมืองหลวงแห่งการข่มขืนของอินเดีย"
นักศึกษามหาวิทยาลัยราว 400 คนรวมตัวกันใจกลางกรุงเดลีเมื่อวันจันทร์(31) ประกาศเดินหน้าเคลื่อนไหวจนว่าทางการจะมีมาตรการด้านความปลอดภัยที่ดีกว่านี้และมีบทลงโทษต่อผู้กระทำผิดหนักหน่วงกว่าที่เป็นอยู่
เหยื่อถูกรุมโทรม เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลในสิงคโปร์เมื่อวันเสาร์(29) หรือเกือบ 2 สัปดาห์ที่ถูกนำร้ายอย่างโหดเหี้ยมและรุมข่มขืนบนรถเมล์ที่นิวเดลี และญาติๆประกอบพิธีฌาปนกิจศพของเธอในวันอาทิตย์(30) ขณะที่เหล่าเพื่อนเผยว่าเธอวางแผนจะแต่งงานในเดือนกุมภาพันธ์
"การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นขึ้น เราต้องการให้แขวนคอผู้ต้องหาทุกคนและเราจะสู้เพื่อสิ่งนั้น" พี่ชายของเหยื่อให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อินเดีย เอ็กเพรส์
ด้านตำรวจเดลีเผยว่ากระบวนการสืบวนเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงแค่รอรายงานการชันสูตรศพจากโรงพยาบาลสิงคโปร์และผลสรุปของเหล่าผู้เชี่ยวชาญทางนิติเวชศาสตร์เท่านั้น นั่นเท่ากับว่าจะสามารถแจ้งข้อหาคนร้ายได้ในวันพฤหัสบดี(3ม.ค.) "จากนั้นศาลจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นกระบวนการพิจารณาคดีเมื่อไหร่" โฆษกตำรวจระบุ
สันนิษฐานว่าชายฉกรรจ์ 6 คนจะถูกแจ้งข้อหาข่มขืนและฆาตกรรมหลายกระทง หลังถูกกล่าวหาล่อลวงนักศึกษาแพทย์วัย 23 ปีขึ้นรถบัสเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม จากนั้นก็รุมข่มขืนเธอ และใช้แท่งเหล็กทุบตีทำร้ายอย่างเหี้ยมโหด ก่อนโยนเธอลงจากรถที่กำลังแล่นอยู่
ส่วนนักศึกษาวิศวกรรมซอฟต์แวร์วัย 28 ปี ที่เดินทางไปด้วยกันและเป็นคนที่เธอหวังแต่งงานด้วย ก็ถูกทำร้ายและโยนลงข้างทางได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน และทางหนังสือพิมพ์อินเดีย เอ็กเพรสรายงานว่าโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของญาติๆเผยว่าเขาได้ไปร่วมชี้ตัวผู้ต้องสงสัยที่คุกติฮาร์ของนิวเดลีด้วย
ในความพยายามบรรเทาด้วยความโกรธแค้นต่อตำรวจและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสำหรับความล้มเหลวปกป้องอาชญากรรมรุนแรงต่อผู้หญิง รัฐบาลนิวเดลีแถลงจ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวเหยื่อถูกรุมโทรมนี้จำนวน 1.5 ล้านรูปี(ราว 830,000 บาท) และเตรียมจ้างญาติของเธอคนหนึ่งเข้ารับราชการ