รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำแถลงที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในวันพฤหัสบดี (27) ระบุทางกระทรวงฯตัดสินใจยุติการปฏิบัติภารกิจทั้งปวงของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในสาธารณรัฐแอฟริกากลางแล้ว
การประกาศยุติภารกิจทางการทูตทั้งหมดของสหรัฐฯ ในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง มีขึ้นด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังมีรายงานที่ยืนยันว่า กองกำลังฝ่ายกบฏ ซึ่งสามารถยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเอาไว้ได้ในช่วงก่อนหน้านี้ กำลังจะเคลื่อนเข้าสู่กรุงบังกี ที่เป็นเมืองหลวง และเป็นที่มั่นสุดท้ายของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โบซิเซ วัย 66 ปี
แพทริก เวนเทรลล์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงบังกี จำเป็นต้องยุติภารกิจทางการทูตทั้งหมดเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์ในสาธารณรัฐแอฟริกากลางจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงบังกี และเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันทั้งหมด ได้เดินทางออกนอกประเทศแล้วพร้อมย้ำการยุติภารกิจทางการทูตครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐฯ และแอฟริกากลาง
ก่อนหน้านี้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสเพิ่งออกมายืนยันว่า ทหารฝรั่งเศสจะไม่กระทำการใดๆ ที่เข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายในของสาธารณรัฐแอฟริกากลางอดีตดินแดนอาณานิคมของตนที่กำลังประสบปัญหาด้านความมั่นคง หลังกองกำลังฝ่ายกบฏสามารถรุกคืบเข้ายึดพื้นที่จำนวนมากตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยออลลองด์ระบุว่า ยุคสมัยแห่งการแทรกแซงจากปารีสได้จบสิ้นไปนานแล้ว พร้อมย้ำว่าทหารฝรั่งเศสจะไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆต่อประชาชนชาวแอฟริกากลางที่ต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ ยกเว้นจะมีมติจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เท่านั้น
