เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียจะเข้าข่าย “ฆ่าตัวตายทางการเมือง” หากใช้อาวุธเคมีปราบฝ่ายต่อต้านตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ รัฐมนตรีรัสเซียแถลง วันนี้ (24)
เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า ผู้นำซีเรียเคยยืนยันกับมอสโกหลายครั้งว่าไม่มีแผนสั่งฆ่าประชาชนด้วยอาวุธเคมี
“ผมไม่เชื่อว่าซีเรียจะใช้อาวุธเคมี... นั่นจะถือเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมืองหากรัฐบาลทำเช่นนั้น” บทสัมภาษณ์ ลาฟรอฟ ที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ อาร์ที ภาคภาษาอังกฤษระบุ
รัสเซียยังคงรักษาความเป็นพันธมิตรต่ออัสซาดอย่างเหนียวแน่นตลอด 21 เดือนที่ซีเรียเกิดเหตุจลาจลทางการเมือง ซึ่งกลุ่มสังเกตการณ์ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอ้างว่ามีพลเมืองสังเวยชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 44,000 คน
มอสโกซึ่งเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ยังใช้สิทธิวีโตมติคว่ำบาตรซีเรียมาแล้วถึง 3 ครั้ง ทั้งยังประณามสหรัฐฯ ที่ไปรับรองสถานะของฝ่ายกบฏว่าเป็นผู้แทนซีเรียโดยชอบธรรม
จุดยืนของมอสโกถือเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อฝ่ายตะวันตกในการที่จะหยุดยั้งเหตุนองเลือดในซีเรีย และบีบให้อัสซาดสละอำนาจที่มีอยู่ ซึ่งวอชิงตันก็ตำหนิรัสเซียที่ยังไม่ยอมตัดสัมพันธ์ทางทหารกับซีเรีย
กระนั้นก็ดี รัสเซียก็ยังเป็นชาติเดียวที่ติดต่อกับอัสซาดอย่างสม่ำเสมอ และตะวันตกก็เรียกร้องให้รัสเซียใช้ความเป็นมิตรประเทศเจรจาให้อัสซาดยอมจำนน
ลาฟรอฟกล่าวว่า มอสโกตรวจสอบไปยังดามัสกัสทุกครั้งที่มีรายงานเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายอาวุธเคมี เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะไม่นำอาวุธร้ายแรงออกมาใช้
“ทุกครั้งที่เราได้ยินข่าวลือหรือข้อมูลว่าทหารซีเรียกำลังทำอะไรบางอย่างกับคลังอาวุธเคมี เราจะตรวจสอบซ้ำสองครั้ง สามครั้ง เราจะถามไปยังดามัสกัสโดยตรง และทุกครั้งเราก็ได้รับคำยืนยันว่า อาวุธพวกนี้จะไม่ถูกนำมาใช้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดๆ” ลาฟรอฟกล่าว