เอเจนซีส์ - ชาวอียิปต์รับรองรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ฝ่ายอิสลามิสต์ร่างขึ้นด้วยคะแนนเกือบ 2 ใน 3 ในการลงประชามติ ทั้งนี้ตามรายงานของสื่อทางการและกลุ่มสนับสนุนประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี เมื่อวันอาทิตย์ (23) ขณะที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่า มีการโกงกันมากมาย พร้อมกับเรียกร้องให้คณะกรรมการเลือกตั้งจัดการสอบสวนและอย่าเพิ่งประกาศรับรอง
แม้การลงประชามติรับรองรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของอียิปต์ ซึ่งจัดกันเป็น 2 รอบ โดยรอบสองมีขึ้นเมื่อวันเสาร์ (22) จะต้องรอจนถึงวันจันทร์ (24) จึงจะมีการประกาศคะแนนอย่างเป็นทางการ แต่ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการจากสื่อของรัฐและกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีมอร์ซีในกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งเปิดเผยกันตั้งแต่วันอาทิตย์ระบุว่า ผู้ลงคะแนนจำนวน 64% ให้การรับรองรัฐธรรมนูญ โดยทั้งสองรอบมีผู้ออกไปใช้สิทธิรวมกันประมาณ 32% ของผู้มีสิทธิออกเสียง
ทว่า แนวร่วมกู้ชาติ (เนชันแนล ซัลเวชัน ฟรอนต์) ของอียิปต์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของพรรคและกลุ่มฝ่ายค้าน แถลงข่าวในวันเดียวกัน มีการทุจริตและการทำผิดกฎกติกาต่างๆ ในการลงคะแนนเป็นจำนวนมาก ทำให้ผลการลงประชามติคราวนี้ไม่น่าเชื่อถือ จึงเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทำการสอบสวนก่อนที่จะประกาศผลอย่างเป็นทางการ
แนวร่วมกู้ชาติ ได้เคยพยายามขัดขวางการจัดลงประชามติด้วยการชุมนุมใหญ่ แต่ต่อมาได้ปรับกลยุทธ์ในนาทีสุดท้ายเป็นเรียกร้องให้ประชาชนโหวตปฏิเสธรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งร่างโดยคณะกรรมการที่มีกลุ่มภราดรภาพมุสลิมและกลุ่มมิสลิมเคร่งจารีตซาลาฟิสต์ครอบงำ ขณะที่กลุ่มเสรีนิยมและคริสเตียนถอนตัวออกมาเนื่องจากมองว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้บ่อนทำลายสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิสตรี
ฝ่ายค้านของอียิปต์ชี้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะผลักดันประชาชนให้ออกมาชุมนุมประท้วงกันมากขึ้น เนื่องจากไม่เป็นที่ยอมรับกันของผู้คนจำนวนมาก ขณะที่การลงประชามติยังมีข้อเคลือบแคลงเรื่องความโปร่งใสและเป็นธรรม
ทั้งนี้ วันศุกร์ที่ผ่านมา (21) ก็มีการปะทะดุเดือดในเมืองอเล็กซานเดรีย เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอียิปต์ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 62 คน ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 เดือนนี้มีผู้เสียชีวิต 8 คนและบาดเจ็บนับร้อยจากเหตุม็อบชนม็อบหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไคโร
ทางการอียิปต์ส่งตำรวจและทหาร 250,000 นายดูแลความสงบเรียบร้อยระหว่างการลงประชามติ นอกจากนี้ยังมีรถถังทหารจอดอารักขาหน้าทำเนียบประธานาธิบดีตั้งแต่ต้นเดือน
หากมีการรับรองผลการลงประชามติแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในเวลาอีก 2 เดือน
ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มอร์ซีได้ประกาศแต่งตั้งวุฒิสมาชิกเพิ่มเติมอีก 90 คน ในจำนวนนี้ประกอบด้วยผู้หญิง 8 คน และคริสเตียน 12 คน เพื่อให้เป็นเวทีอภิปรายระดับชาติ
ที่กรุงวอชิงตัน อิลลินา รอสเลห์ทิเนน ประธานหญิงคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของสภาล่าง สังกัดพรรครีพับลิกัน วิจารณ์ว่า การลงประชามติครั้งนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ของชาวอียิปต์ เพราะเท่ากับเป็นการเปลี่ยนระบอบการเมืองที่เชื่อถือได้ไปเป็นเผด็จการอิสลาม
หนังสือพิมพ์อียิปต์ฉบับวันอาทิตย์สะท้อนความแตกแยกของประเทศเป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น อัล-อัคห์บาร์ของรัฐพาดหัวหน้าหนึ่งว่า “อียิปต์เดินหน้าสู่เสถียรภาพ” แต่หนังสือพิมพ์อิสระอย่างอัล-มาสรี อัล-ยูม กลับวิพากษ์สวนทางว่า “การละเมิดมวลชน”
ขณะเดียวกัน ในวันเสาร์มีรายงานว่า รองประธานาธิบดีมาหมูด เม็กกี ยื่นจดหมายลาออกโดยระบุว่า ต้องการถอนตัวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แต่จำเป็นต้องอยู่ช่วยมอร์ซีจัดการวิกฤตการเมือง
ทั้งนี้ การลาออกของเม็กกี้ดูเหมือนเชื่อมโยงกับการที่ไม่มีตำแหน่งรองประธานาธิบดีภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่