ลูกสาวจอมเผด็จการโสมขาวงัดนโยบายพ่อหาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งพรุ่งนี้

รอยเตอร์ - พัค กึนฮเย ผู้สมัครตัวเต็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ลูกสาวของอดีตจอมเผด็จการ พัค จองฮี ปลุกนโยบายเศรษฐกิจของผู้เป็นบิดามาใช้ ด้วยความพยายามที่จะดึงเสียงสนับสนุนจากผู้ศรัทธาในพรรคของเธอ เพียง 1 วันก่อนการเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศ

ผู้สมัครหญิงจากพรรคนิวฟรอนเทียร์ปาร์ตี้ พรรครัฐบาลสายอนุรักษนิยมให้คำมั่นในการแถลงข่าวว่า เธอจะสร้างปาฏิหาริย์ในการทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับนโยบาย "จงอยู่ดีกินดี" (Let's Live Well) ของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง ขณะที่ประเทศกำลังแบกภาระหนี้ภาคครัวเรือนอันหนักหนาสาหัส อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรที่สูงลิบ และความอดอยากยากจนในหมู่คนชรา

ตัวเลขข้อมูลของทางการระบุว่า ภาคครัวเรือนในเกาหลีใต้เป็นหนี้มากกว่าประชากรในสหรัฐฯ ก่อนช่วงวิกฤตหนี้สินปี 2008 เสียอีก

ทั้งนี้ อดีตจอมเผด็จการ พัค จองฮี ซึ่งปกครองโสมขาวตั้งแต่ 1961-1979 เคยช่วยเปลี่ยนเกาหลีใต้จากประเทศประสบภัยสงครามให้กลายเป็นผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ ด้วยวิธีการเปิดเพลง ซึ่งมีเนื้อร้องกระตุ้นให้ประชาชนตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน เพื่อความเจริญรุ่งเรือง ผ่านเครื่องขยายเสียงไปทั่วประเทศ ในช่วงการปกครองของเขา

ก่อนหน้านี้ พัค กึนฮเยพยายามที่จะเอาตัวออกห่างจากแนวทางการปกครองของบิดา ซึ่งใช้วิธีปราบปรามทางการเมืองในนามของการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ

ขณะที่โพลบางสำนักชี้ว่า คะแนนนิยมระหว่างผู้สมัครพัค กับคู่แข่งจากพรรคฝ่ายซ้าย มุน แจอิน สูสีกันอย่างยิ่ง โดยห่างกันเพียง 0.5% จุดเท่านั้น จึงต้องรอวัดผลจากจำนวนประชาชนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งต่อไป

ผลสำรวจความเห็นระบุว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสูงวัยน่าจะเทคะแนนให้กับผู้สมัครพัค และน่าจะเป็นประชากรกลุ่มที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่า ขณะที่คะแนนของผู้สมัครมุนนั้นขึ้นอยู่กับประชาชนวัยหนุ่มสาว ซึ่งยังไม่แน่นอน

ด้านมุนสัญญาว่าจะเดินหน้าโครงการสร้างงาน 18,000 ล้านดอลลาร์ และปรับปรุงสวัสดิการสังคมให้ดีขึ้น เป็นนโยบายหลักเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้

ทั้งนี้ ในวันพุธ (19) ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า 40 ล้านคนจะต้องออกมาลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ โดยคูหาเลือกตั้งจะเปิดตั้งแต่เวลา 6.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 4.00 น.ตามเวลาของไทย และปิดลงคะแนนในเวลา 18.00 น.

สำหรับผู้ชนะในการเลือกตั้งจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 หลังวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีอี มย็องบักสิ้นสุดลง