น้ำมันขึ้นหลัง ตอ.กลางตึงเครียด หุ้นมะกันดิ่งแรง-ทองคำบวก

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันโลกวานนี้ (14) ดีดตัวแรง หลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่ปลิดชีพผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มฮามาส จุดชนวนความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์ สวนทางกับวอลล์สตรีทที่ดิ่งหนัก จากข้อวิตกเกี่ยวกับวิกฤตหน้าผาการคลัง หลังโอบามาท้าทายรีพับลิกัน ส่วนทองคำปิดบวกพอประมาณ เหตุมีแนวโน้มว่าเฟดจะยังกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 94 เซ็นต์ ปิดที่ 86.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

หลังจากทรงตัวในช่วงเปิดตลาด ราคาน้ำมันทะยานขึ้นทีนทีขานรับข่าวผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มฮามาส ถูกสังหารโดยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ที่ยิวคุยว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นปฏิบัติการจัดการเหล่านักรบปาเลสไตน์ครั้งใหม่

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังพากันตื่นตระหนกต่อปฏิกิริยาตอบสนองของฝ่ายต่างๆในตะวันออกกลางจากการโจมตีครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นชาวปาเลสไตน์ที่ออกมาขู่แก้แค้นอย่างสาสม อียิปต์เรียกทูตประจำอิสราเอลกลับประเทศ และสันนิบาตอาหรับ เรียกประชุมฉุกเฉินเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (14) ดิ่งลงอย่างหนัก หลังการออกมาท้าทายพรรครีพับลิกันให้ยอมรับข้อเสนอขึ้นภาษีคนรวยของประธานาธิบดีโอบามา จุดชนวนความกังวลว่าอเมริกา อาจไม่รอดพ้นภาวะ “หน้าผาการคลัง” หรือการตัดรายจ่ายและขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติในช่วงสิ้นปี ที่อาจฉุดเศรษฐกิจหมายเลข 1 ของโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 184.92 จุด (1.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,571.26 จุด แนสแดค ลดลง 37.08 จุด (1.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,846.81 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 19.03 จุด (1.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,355.50 จุด

หลังจากเปิดตลาดในแดนบวก จากแรงหนุนของรายงานผลประกอบการของบริษัทซิสโก ซิสเต็มส์ วอลล์สตรีทก็แกว่งตัวสู่แดนลบอย่างรุนแรง เมื่อโอบามาแสดงจุดยืน ณ การแถลงข่าวครั้งแรกหลังศึกเลือกตั้ง ถึงแนวทางเจรจากับรีพับลิกัน ในการแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณ

ส่วนราคาทองคำวานนี้ (14) ขยับขึ้นพอสมควร หลังรายงาน (minutes) ของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อเร็วๆ นี้ บ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปจนถึงปี 2013

โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,730.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์