อัลอาราบิยา - ผู้นำกลุ่มนักรบญีฮัดของอียิปต์ ซึ่งอ้างตัวว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มตอลิบาน เรียกร้องให้ทำลายสฟิงซ์ และมหาพีระมิดที่เมืองกิซา สิ่งก่อสร้างอันเป็นสัญลักษณ์ของแดนไอยคุปต์ สื่อท้องถิ่นเผย
มูร์กัน ซาเล็ม อัล-โกฮารี ผู้นำอิสลามิสต์ ซึ่งเคยต้องโทษถึง 2 ครั้งในสมัยอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ฐานก่อความรุนแรง เรียกร้องให้ชาวมุสลิมรื้อทำลาย 'รูปเคารพ' เหล่านั้น
“ชาวมุสลิมทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาอิสลามในการกำจัดรูปเคารพเหล่านั้น เช่นเดียวกับที่เราทำในอัฟกานิสถานเมื่อเราทำลายพระพุทธรูป” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์สดทางสถานีโทรทัศน์เอกชนของอียิปต์เมื่อวันเสาร์ (10) ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ชมเป็นชาวอียิปต์และอาหรับเป็นจำนวนมาก
“พระเจ้าทรงสั่งให้ศาสดาโมฮัมหมัดทำลายรูปเคารพทั้งหลาย” เขาเสริม “เมื่อตอนที่ผมอยู่กับกลุ่มตอลิบาน เราทำลายพระพุทธรูป ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ยอมทำ”
คำกล่าวของเขาออกมา 1 วันหลังจากกลุ่มอิสลามิสต์หัวโบราณหลายพันคนไปรวมตัวกัน ณ จัตุรัสตอห์รีร์ เพื่อเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายอิสลามเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประเทศ
ด้านเชกห์อับเดล ฟัตตอห์ โมโร รองประธานพรรคเอนนาห์ดาของตูนิเซีย ได้ตอบโต้ข้อเรียกร้องของโกฮารี โดยโทร.เข้าไปยังรายการดังกล่าวและบอกกับผู้นำกลุ่มญีฮัดว่า แม้แต่แม่ทัพอามีร์ อิบนุ อัล-อาซ ผู้นำทัพมุสลิมพิชิตอียิปต์ยังไม่ทำลายประติมากรรมเหล่านั้น แล้วเขาเป็นใครถึงคิดจะทำเช่นนั้น
“ท่านศาสดาทำลายรูปเคารพต่างๆ เนื่องจากผู้คนสักการะรูปเหล่านั้น แต่สฟิงซ์และพีระมิดไม่ได้รับการสักการะแต่อย่างใด”
หนังสือพิมพ์อียิปต์ อินดิเพนเดนต์รายงานว่า โกฮารี วัย 50 ปี เป็นบุคคลที่ชาวเมืองฟาโรห์รู้จักดีในฐานะผู้ก่อเหตุความรุนแรง เคยต้องโทษ 2 ครั้ง โดย 1 ในนั้นมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต ทำให้เขาต้องหลบหนีไปอยู่อัฟกานิสถาน ที่ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อครั้งสหรัฐฯ บุกโค่นล้มรัฐบาลตอลิบาน
ในปี 2007 เขาเดินทางจากปากีสถานไปยังซีเรีย ซึ่งส่งตัวเขากลับไปให้แก่ทางการอียิปต์ จนกระทั่งเมื่อการปกครองของมูบารัคล่มสลายเมื่อต้นปี 2011 เขาจึงได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ โดยคำตัดสินของศาล หนังสือพิมพ์ดังกล่าวเสริม