รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจในประเทศเบลิซ ทางตอนกลางของทวีปอเมริกา เรียกตัวนายจอห์น แม็คอะฟี กูรูซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสคอมพิวเตอร์ชื่อก้องโลกชาวอเมริกันมาสอบปากคำเกี่ยวคดีฆาตกรรมเพื่อนบ้านรายหนึ่ง หลังมีผู้พบเห็นเขามีปากเสียงกับผู้ตายก่อนเกิดเหตุ อย่างไรก็ดี ตำรวจเบลิซยืนยันว่าแม็คอะฟียังมิใช่ “ผู้ต้องสงสัย” ในคดีนี้
รายงานข่าวระบุว่า แม็คอะฟี ซึ่งย้ายไปตั้งรกรากและทำธุรกิจหลายประเภทอยู่ในเบลิซ ตั้งแต่เมื่อปี 2010 ถูกตำรวจเบลิซเชิญตัวไปสอบปากคำหลังมีผู้พบศพของนายเกรกอรี ไวแอนท์ ฟอลล์ ชาวอเมริกัน วัย 52 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของแม็คอะฟี ถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิตนอนจมกองเลือด โดยทางตำรวจมีข้อมูลว่าก่อนพบศพของฟอลล์มีผู้พบเห็นเขาและแม็คอะฟีมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง
มาร์โก บิดัล เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมตำรวจเบลิซเผยว่า แม็คอะฟียังมิใช่ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ ขณะที่มิเกล เซกูรา เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายระบุว่า การให้ปากคำของแม็คอะฟีที่เป็นเพื่อนบ้านจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นในการสืบสวนหาตัวคนร้าย
ก่อนหน้านี้ แม็คอะฟีเคยถูกตำรวจเบลิซกล่าวหาเมื่อเดือนพฤษภาคมว่าครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ในเวลาต่อมาแม็คอะฟีจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าปืนในครอบครองของเขามีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ขณะที่แม็คอะฟีเองก็กล่าวหาตำรวจหน่วยปราบปรามอาชญากรรมของเบลิซว่าสังหารสุนัขของเขาหลายตัวระหว่างการบุกตรวจค้นอสังหาริมทรัพย์ของเขาเมื่อเดือนพฤษภาคมเช่นกัน
ทั้งนี้ จอห์น แม็คอะฟี ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาด้านระบบให้กับบริษัท “ล็อคฮีด” มาก่อน ได้เริ่มก่อตั้งบริษัท “แม็คอะฟี แอสโซซิเอตส์” ในปี 1989 และถือเป็นนักธุรกิจรายแรกๆ จาก “ซิลิกอน แวลลีย์” ที่สร้างความมั่งคั่งและชื่อเสียงจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์
