เอเอฟพี - ประชาชนหลายหมื่นคน ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งสูญเสียบ้านและที่อยู่อาศัยไปจากเหตุซูเปอร์สตอร์ม "แซนดี้" ถล่มเมือง ต้องเผชิญวิกฤตครั้งใหม่ในวันอาทิตย์ (4) เมื่ออุณหภูมิลดต่ำลงเรื่อยๆ จนเป็นที่น่ากังวลว่าผู้ประสบภัยเหล่านี้อาจเสียชีวิตเพราะอากาศหนาวได้
ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์กประเมินว่า เฉพาะในเมืองบิ๊กแอปเปิลนี้เพียงแห่งเดียว ที่อยู่อาศัยราว 30,000-40,000 หลังคาเรือนไม่สามารถใช้เป็นที่พักพิงได้อีก หลังถูกพายุพัดถล่มเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ขณะที่สภาพอากาศหนาวเริ่มรุนแรงขึ้น
อิทธิพลของพายุแซนดี้ทำให้เกิดลมกรรโชกแรง และคลื่นทะเลหนุนสูงใน 15 มลรัฐ คร่าชีวิตเหยื่อไปไม่ต่ำกว่า 109 คนทั้งในสหรัฐฯ และแคนาดา โดยมูลค่าความเสียหายถึงหลายหมื่นล้านดอลลาร์ทีเดียว
จนถึงขณะนี้ยังมีประชาชนอีกมากกว่า 2 ล้านครัวเรือนใน 7 มลรัฐ ที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และคาดว่าพายุลูกใหม่กำลังจะกระหน่ำซ้ำเติมผู้ประสบภัยด้วยฝนตกหนัก และลมพัดแรงในวันพุธ (7) นี้ด้วย
ส่วนโรงเรียนเกือบทั้งหมดในนิวยอร์กคาดว่าจะเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันจันทร์ (5) หลังจากระบบรถไฟใต้ดินกลับมาให้บริการตามปกติแล้ว
ด้านแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวในการแถลงข่าวว่า สภาพอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ แต่ประชาชนหลายหมื่นคนกลับต้องอยู่ในบ้านที่ไม่สามารถเป็นที่อยู่อาศัยได้ จึงจำเป็นต้องหาทางออกเกี่ยวกับที่พักพิงให้พวกเขาอย่างเร่งด่วน
"นี่จะเป็นปัญหาใหญ่ด้านที่อยู่อาศัยอย่างยิ่ง" ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าว โดยเสริมว่า ชาวเมืองอาจต้องรออีก 2 สัปดาห์กว่าที่ไฟฟ้าจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ พร้อมยืนยันว่าบริษัทสาธารณูปโภคต่างๆ จะรับผิดชอบ
ทั้งคูโอโม และบลูมเบิร์กต่างเรียกร้องให้ประชาชนอดทนอดกลั้น ท่ามกลางความไม่พอใจของบรรดาผู้ขับขี่ยานพาหนะซึ่งต้องต่อคิวซื้อน้ำมันตามปั๊มเป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยพวกเขายืนกรานว่าการขนส่งเริ่มดีขึ้นแล้ว
