ซีเอ็นเอ็น/ASTVผู้จัดการ - หลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังต้องจัดการกับความเสียหายจากอิทธิฤทธิ์ของ“เซินตินห์” ที่ซัดถล่มฟิลิปปินส์และเวียดนามเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 30 ศพ
สำนักข่าวแห่งรัฐเวียดนามนิวส์ รายงานว่า พายุเซินตินห์กำลังเคลื่อนไหวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตามชายฝั่งทางเหนือของเวียดนามในวันจันทร์ (29) หลังจากถาโถมหอบหลังคาบ้านเรือนหว่าหลายร้อยหลังปลินว่อนและซัดกระหน่ำแนวป้องกันอุทกภัยตลอดทั้งคืน
เซินตินห์มีความรุนแรงระดับพายุไต้ฝุ่นตอนที่มันซัดขึ้นฝั่งทางเหนือของเวียดนาม ด้วยความแรงลม 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ (28) ขณะที่สำนักงานคณะกรรมธิการช่วยเหลือและค้นหาแห่งชาติ ประมาณการณ์เบื้องต้นว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายและบาดเจ็บ 2 คน
ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นเซินตินห์อ่อนกำลังลงไปแล้วในเช้าวันจันทร์ (29) อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าประชาชนมากกว่า 260,000 คนในเวียตนาม ต้องอพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ก่อนที่มันจะขึ้นฝั่งเวียดนามเมื่อวันอาทิตย์ (28) ในมาตรการป้องกันไว้ก่อน
หลังจากพายุผ่านพ้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทหารมากกว่า 1,300 คน ถูกส่งเข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือและกู้ภัยกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทันที โดยสำนักข่าวเวียดนามนิวส์เผยด้วยว่าฝูงเฮลิคอปเตอร์ได้รับคำสั่งให้อยู่ในความเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจกู้ภัยและค้นหา ณ แท่นขุดน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งมีคนงานประจำอยู่ 35 คน หลังแท่นแห่งนี้หลุดจากเรือโยงกลางทะเลท่ามกลางคลื่นลมแรง
ด้านสำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า มีคนสูญหาย 5 รายเมื่อวันอาทิตย์ (28) หลังเซินตินห์ ซัดเรือวิศวกรรมลำหนึ่งอัปปางใกล้ท่าเทียบเรือสินค้าในเมืองซันหยา บนเกาะไหหนาน ทางคะวันตกของจีน
ก่อนหน้านี้ไต้ฝุ่นเซินตินห์ได้คร่าชีวิตผู้คน 27 ศพ ระหว่างที่มันซัดถล่มตอนกลางของฟิลิปปินส์ช่วงปลายสัปดาห์ก่อน โดยอิทธิพลของมันนำพามาซึ่งอุทกภัยและดินถล่มหลายพื้นที่ ขณะที่ทางหน่วยงานจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบติแห่งชาติฟิลิปปินส์ เผยว่าจนถึงตอนนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 9 ราย
ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยาของไทยระบุบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 13.00 น.วันจันทร์ (29) พายุโซนร้อน “เซินตินห์” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่บริเวณเขตติดต่อประเทศเวียดนามและประเทศจีนตอนใต้ คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ในระยะต่อไปและไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย