รอยเตอร์ - บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ โค ปรับลดผลกำไรคาดการณ์ในปีงบประมาณปัจจุบันลง 1 ใน 5 หรือราว 20% หลังยอดจำหน่ายรถยนต์ในจีนซึ่งเป็นตลาดอันดับ 1 ของโลกตกต่ำลงเนื่องจากปัญหาพิพาทหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งทำให้ชาวจีนจำนวนมากหันมาต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น
ทั้งนี้ คาดว่าคู่แข่งอย่างโตโยต้า และนิสสัน น่าจะปรับผลกำไรคาดการณ์ในปีนี้ลงเช่นเดียวกัน โดยทั้ง 2 ค่ายจะแถลงในวันที่ 5 และ 6 พฤศจิกายนนี้
ยอดจำหน่ายของฮอนด้า, โตโยต้า และนิสสัน ในแดนมังกรดิ่งลงชนิดฮวบฮาบ หลังเกิดกระแสต่อต้านแผนซื้อหมู่เกาะเซ็งกากุ หรือเตี้ยวอี๋ว์ ของรัฐบาลญี่ปุ่น ส่งผลให้ค่ายรถคู่แข่งอย่างฮุนได และบีเอ็มดับเบิลยู ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ โดยต่างมียอดซื้อเพิ่มขึ้น
เฉพาะเดือนที่แล้ว ยอดจำหน่ายของฮอนด้าและบริษัทร่วมทุนในจีนตกลงถึง 40.5% โดยจีนถือเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 ของฮอนด้ารองจากสหรัฐฯ และคิดเป็นร้อยละ 17 ของยอดขายทั้งหมดในปี 2011
ฮอนด้าปรับผลกำไรสุทธิคาดการณ์ในปีนี้ลงเหลือ 375,000 ล้านเยน จากเดิมที่คาดไว้ 470,000 ล้านเยน
แม้กำไรสุทธิของฮอนด้าระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายนจะขยับขึ้น 36.1% มาอยู่ที่ 82,200 ล้านเยน แต่ก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 107,200 ล้านเยนที่นักวิเคราะห์ 6 คนคาดการณ์ไว้ ตามผลสำรวจโดยรอยเตอร์
ค่าใช้จ่ายในการเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ซึ่งเริ่มจำหน่ายในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนกันยายน ส่งผลให้กำไรในไตรมาสที่แล้วของฮอนด้าลดลงกว่าที่ควรจะเป็น ทว่า ฮอนด้าก็ได้ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ซีดาน และรถกระบะขนาดเล็กในสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 8.7% ในเดือนเดียวกัน
นักวิเคราะห์เตือนว่า ข้อพิพาทหมู่เกาะเซ็งกากุอาจกระทบยอดขายรถยนต์ญี่ปุ่นต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 4