เจ้าพ่อสื่อ “เมอร์ด็อก” ทวีตหนุน “รอมนีย์” เป็นปธน.-จวก “ไบเดน” มั่วนิ่มอ้างสัมพันธ์ยิว

เอเอฟพี - เจ้าพ่อสื่อ รูเพิร์ต เมอร์ด็อก โพสทวิตเตอร์โจมตีทีมหาเสียงของประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ วานนี้(13) พร้อมเผยท่าทีสนับสนุนผู้สมัครรีพับลิกัน มิตต์ รอมนีย์ อย่างเต็มที่ ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง3 สัปดาห์ก็จะถึงศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯคนใหม่

เจ้าของอาณาจักรสื่อ นิวส์ คอร์ปอเรชัน กล่าวหารองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ว่าโกหกประชาชนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง โอบามา กับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล รวมถึงรายละเอียดในเหตุการณ์บุกเผาสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองเบงกาซีของลิเบีย

“หาก โอบามา ชนะจะเป็นฝันร้ายของอิสราเอล ไบเดนโกหกทั้งเพเรื่องความสัมพันธ์กับบีบี (ชื่อเล่นของ เนทันยาฮู) ถ้าเอา ซูซาน ไรซ์ เป็นรมว.ต่างประเทศ ก็ยิ่งเป็นฝันร้าย” เมอร์ด็อก เขียนบนทวิตเตอร์

ไรซ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้แทนสหรัฐฯประจำองค์การสหประชาชาติ ถูกคาดหมายว่าจะมารับหน้าที่คุมกระทรวงการต่างประเทศแทน ฮิลลารี คลินตัน ซึ่งประกาศจะอำลาตำแหน่งหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน

4 ข้อความที่ เมอร์ด็อก ทยอยโพสภายในเวลาเพียง 18 นาที ยังมีเนื้อหาโจมตี โอบามา เกี่ยวกับวิธีตอบสนองเหตุโจมตีสถานกงุสลเมืองเบงกาซี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อเมริกันเสียชีวิตไป 4 ราย รวมถึงเอกอัครราชทูต คริส สตีเวนส์

“ทำเนียบขาวโกหกเรื่องเบงกาซี เราต้องรู้ความจริง หรือว่ารัฐบาลเละเทะไปกันหมดแล้ว? ไบเดน โยนความผิดไปให้ซีไอเอ ตอนนี้ทำเนียบขาวก็หาเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศอีก”

เมอร์ด็อก ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทสื่อชั้นนำ รวมถึง ฟ็อกซ์นิวส์ และ วอลล์สตรีทเจอร์เนิล เคยออกมาวิจารณ์ รอมนีย์ ในทางเสียหาย แต่ดูเหมือนวันนี้เขาจะไม่ต้องการให้ โอบามา คุมทำเนียบขาวอีกต่อไป

เขาฝากคำชี้แนะไปยังผู้สมัครรีพับลิกันว่า “การในอภิปรายครั้งหน้า รอมนีย์ ต้องมองข้ามการโจมตีเรื่องส่วนตัว แต่ให้เน้นที่แผนการสร้างงานและโอกาสสำหรับประชาชนทุกคน นั่นคือสิ่งสำคัญ”

ในศึกดีเบตเมื่อวันพุธ(10)ที่ผ่านมา ไบเดน ระบุว่า โอบามา มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอิสราเอล

“ส่วนผมกับ บีบี นั้น เราเป็นเพื่อนกันมานานถึง 39 ปีแล้ว” ไบเดน เผย

เหล่าบล็อกเกอร์การเมืองได้ออกมาตั้งข้อสังเกตหลังจากนั้นว่า ไบเดน ไม่น่าจะรู้จักกับผู้นำอิสราเอลมานานถึงเพียงนั้น เพราะเมื่อปี 1973 เนทันยาฮู ยังรับราชการในกองทัพอิสราเอล และร่วมรบในสงครามโยมคิปปูร์ด้วย

ส่วนข้อวิจารณ์เกี่ยวกับ ซูซาน ไรซ์ นั้น เมอร์ด็อก น่าจะหมายถึงคำสัมภาษณ์ของเธอเมื่อวันที่ 16 กันยายน หรือหลังเกิดเหตุโจมตีสถานกงสุลเมืองเบงกาซีเพียงไม่กี่วัน ซึ่งเธอบอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความแค้นของชาวมุสลิมที่ประท้วงคลิปภาพยนตร์หมิ่นอิสลามบนเว็บไซต์ยูทิวบ์ และไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้า

อย่างไรก็ดี หลักฐานที่พบภายหลังกลับชี้ว่า ไม่ได้มีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นหน้าสถานกงสุล และการโจมตีก็เป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธในท้องถิ่นที่วางแผนมาเป็นอย่างดี และอาจได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มหัวรุนแรงภายนอกด้วย

กระทรวงการต่างประเทศและทำเนียบขาวต่างออกมายอมรับภายหลังว่า เหตุการณ์ที่เมืองเบงกาซีเป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้าย