วิกฤตหนัก! นายกฯกรีซยอมรับ รัฐบาลเหลือเงินใช้ถึงสิ้นเดือนพ.ย.เท่านั้น เตรียมตัวล้มละลาย

เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสเผยวันนี้ (5) ว่า รัฐบาลกรีซเหลืองบประมาณสำหรับใช้ในการบริหารประเทศได้จนถึงเดือนหน้าเท่านั้น พร้อมย้ำรัฐบาลเอเธนส์ไม่อาจร้องขอให้ประชาชนของตนยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจได้มากกว่าที่เป็นอยู่

นายกรัฐมนตรีกรีซเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์รายวัน “ฮันเดิลสบลัตต์” ของเยอรมนี โดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ประเทศของตนใกล้ที่จะก้าวเข้าสู่ภาวะล้มละลายอย่างสิ้นเชิงแล้ว หลังจากเงินคงคลังที่เหลืออยู่ขณะนี้สามารถใช้บริหารประเทศได้จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น และทางรัฐบาลก็ไม่สามารถร้องขอให้ประชาชนยอมรับกับมาตรการรัดเข็มขัดใดๆเพิ่มเติมอีก เนื่องจากที่ผ่านมาชาวกรีซต้องระทมทุกข์จากมาตรการรัดเข็มขัดต่างๆมามากเพียงพอแล้ว

ซามาราสย้ำว่า กรีซต้องการระยะเวลามากขึ้นในการตัดลดค่าใช้จ่ายต่างๆตามเงื่อนไขเงินกู้ ที่กำหนดโดยบรรดาประเทศเจ้าหนี้ ทั้งสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจรอบใหม่ พร้อมระบุว่า กรีซจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อถึงช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เงินที่รัฐบาลกรีซมีอยู่ในมือหมดลง

“ที่ผ่านมา เราได้ทำอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐและการขาดดุลงบประมาณ มาตรการรัดเข็มขัดขนานใหญ่ที่เราบังคับใช้กับประชาชนของเราก่อนหน้านี้ มันไม่ต่างอะไรกับบาดแผลที่ลึกจนถึงกระดูกของเราแล้ว ซึ่งหมายความว่า เราคงจะไม่สามารถออกมาตรการรัดเข็มขัดใดๆเพิ่มเติมได้อีก” ซามาราสกล่าว

ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่า กรีซต้องการเงินเร่งด่วน 31.5 พันล้านยูโร(ราว 1.25 ล้านล้านบาท) จากโปรแกรมช่วยเหลือครั้งใหม่ของอียู-ไอเอ็มเอฟเพื่อให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลาย แต่ดูเหมือนอียูและไอเอ็มเอฟจะยังคงไม่พอใจกับผลการตัดลดค่าใช้จ่ายของกรีซ และยังหวังให้รัฐบาลเอเธนส์บังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดที่ “เข้มงวดยิ่งกว่าเดิม” กับประชาชนของตนก่อน จึงจะพิจารณาปล่อยเงินช่วยเหลือดังกล่าว