เอเอฟพี - ชาวลิเบียจำนวนมากนำอาวุธสงครามมาส่งคืนให้กองทัพตามจุดรับคืนในกรุงตริโปลี และเมืองเบงกาซีทางตะวันออกของประเทศ วานนี้ (29) หลังมีการรณรงค์ลดอาวุธและขจัดกลุ่มก่อความไม่สงบ
ชายฉกรรจ์ชาวลิเบียทยอยส่งคืนอาวุธให้แก่กองทัพแห่งชาติลิเบีย ซึ่งตั้งจุดรับคืนอยู่บริเวณจัตุรัสมาร์เทิร์สในกรุงตริโปลี และจตุรัสแห่งเสรีภาพในเมืองเบงกาซี
อาลี อัล-ชัยค์ โฆษกกองทัพลิเบีย ใหัสัมภาษณ์เกี่ยวกับแผนรณรงค์ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพกับองค์กรภาคเอกชน ว่า “นี่เป็นเพียงมาตรการขั้นแรก และไม่ใช่ขั้นสุดท้าย”
พันเอก ฮุสเซน อับดุลเลาะห์ คอลีฟา ซึ่งกำกับดูแลการรับคืนอาวุธในเมืองหลวง ระบุว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนรณรงค์ต่อต้านกลุ่มติดอาวุธและสร้างกองทัพที่มีเอกภาพ ซึ่งจัดขึ้นในเมืองใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของลิเบียในเดือนนี้
“เราต่างตกตะลึงกับผลตอบรับที่ดีมาก” เขากล่าว
ด้าน ซิอาด ฮาเดีย ผู้จัดโครงการในกรุงตริโปลี ให้สัมภาษณ์ว่า ประชาชนหลายร้อยคนนำอาวุธ “หนัก กลาง และเบา รวมถึงกระสุนปืนหลายชนิดตั้งแต่กระสุนธรรมดาไปจนถึงกระสุนปืนใหญ่ มาส่งคืนให้เจ้าหน้าที่” และยังมีผู้นำปืนไรเฟิลมาคืนให้ทางการอีกเป็นจำนวนมาก
“เรายังได้ขีปนาวุธตรวจับความร้อนมาอีก 6 ลูก” ฮาเดียระบุ พร้อมเผยด้วยว่ามีคนจะนำรถถังมามอบให้กองทัพ ซึ่งจะถูกส่งมอบภายหลังในสถานที่ซึ่งไม่เปิดเผย
ที่เมืองเบงกาซี กองทัพลิเบียรวบรวมอาวุธเบาได้ 730 รายการ, ระเบิดมือ 200 ลูก, ทุ่นระเบิดสำหรับสังหารบุคคลและต่อต้านรถถังอีก 100 ลูก และกระสุนปืนอีกราว 20,000 นัด ผู้สื่อข่าวรายงาน
แม้อาวุธเหล่านี้จะเป็นเพียงส่วนน้อยจากคลังแสงของพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ที่ยังตกค้างอยู่ในลิเบีย แต่ก็ถือเป็นพัฒนาการก้าวสำคัญสำหรับประเทศซึ่งพลเมืองจำนวนหนึ่งยังไม่กล้าสละอาวุธ เนื่องจากเกรงกลัวความไม่ปลอดภัย
“การจะสร้างความมั่นคงต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน” มุสตาฟา อาบู ฮามีด ช่างยนต์วัย 23 ปี ผู้ถือปืนไรเฟิลที่ได้มาระหว่างการประท้วงขับไล่รัฐบาลเมื่อปี 2011 อันนำมาซึ่งความตายของกัดดาฟีกล่าว
หลังสิ้นสุดการรับคืนอาวุธแล้ว ผู้จัดโครงการที่กรุงตริโปลีและเมืองเบงกาซีจะทำการจับฉลากเพื่อแจกรางวัลเป็นรถยนต์ 2 คัน และจะมีการจัดโครงการเช่นนี้ขึ้นในเมืองอื่นๆ ต่อไป