เอเอฟพี - ทางการปากีสถานวานนี้ (17) ปิดกั้นการเข้าชมยูทิวบ์ หลังเว็บไซต์แชร์วิดีโอแห่งนี้ปฏิเสธถอดภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสดามูฮัมหมัด ที่จุดชนวนประท้วงอันโกรธกริ้วในโลกมุสลิม และมีผู้เสียชีวิตในปากีฯ ไปแล้วอย่างน้อย 2 ราย ขณะที่ฮิซบอลเลาะห์เตือนสหรัฐฯเจอผลสะท้อนหนักหน่วงยิ่งขึ้นหากยังไม่ระงับการเผยแพร่คลิปต้นเหตุ
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่พยายามเข้าชมยูทิวบ์จะพบข้อความที่ระบุว่า เว็บไซต์แห่งนี้ถูกจัดอยู่ในประเภทมีเนื้อหาไม่เหมาะสม และถูกบล็อกตามคำสั่งของหน่วยงานด้านโทรคมนาคมของปากีสถาน
ถ้อยแถลงของทำเนียบนายกรัฐมนตรีปากีสถานระบุว่า การปิดกั้นครั้งนี้มีขึ้นตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีราชา เปอร์เวซ อัชราฟ หลังจากยูทิบว์ ปฏิเสธปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาลที่ต้องการให้ถอดภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสนาออกจากเว็บไซต์
ภาพยนตร์เรื่อง “อินโนเซนซ์ ออฟ มุสลิมส์” ซึ่งเชื่อกันว่าผลิตโดยชาวคริสเตียนหัวรุนแรงกลุ่มเล็กๆ จุดชนวนการประท้วงดุเดือดรอบนอกสถานทูตสหรัฐฯ หรือสัญลักษณ์ของอเมริกาตามประเทศต่างๆ อย่างน้อย 20 ประเทศทั่วโลก
ในวันจันทร์ (17) มีผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายในปากีสถาน คนหนึ่งจากการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างที่ผู้ชุมนุมราว 800 คนก่อเหตุเผาศาลแขวง และสมาคมสื่อท้องถิ่นที่เมืองวาไร เขตอัพเปอร์ดีร์
ส่วนผู้ประท้วงอีกรายถูกยิงเข้าที่ศีรษะระหว่างการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้สถานกงสุลสหรัฐฯ ท่ามกลางการชุมนุมในเมืองการาจี เมื่อวันอาทิตย์ (16)
กระแสความโกรธกริ้วของชาวมุสลิมต่อภาพยนตร์ที่ผลิตโดยชาวอเมริกันและถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตกำลังลุกลามไปทั่วโลก โดยเมื่อวันจันทร์(17) มีการชุมนุมเพิ่มเติมที่อัฟกานิสถาน อินโดนีเซีย เวสต์แบงค์ ฟิลิปปินส์และเยเมน
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง ซาเยด ฮัสซาน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งไม่ค่อยปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณนัก วานนี้ (17) ออกมาเตือนสหรัฐฯ ว่าจะต้องเผชิญกับความโกรธแค้นและปฏิกิริยาสะท้อนกลับหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆจนกว่าดำเนินการระงับเผยแพร่ภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสดามูฮัมหมัด
ผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนหลั่งไหลขึ้นสู่ท้องถนนสายต่างๆ ของกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เพื่อแสดงพลังต่อต้านภาพยนตร์ดูหมิ่นอิสลามตามคำเรียกร้อง นาสรัลเลาะห์ ขณะที่ผู้นำตอลิบานรายนี้ ประณามภาพยนตร์ดังกล่าวว่า “เป็นการโจมตีอิสลามครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์”
ผู้นำกลุ่มเคลื่อนไหวที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำก่อการร้าย กล่าวว่า “สหรัฐฯ ควรเข้าใจและตระหนักว่าการเผยแพร่ภาพยนตร์มีความอันตรายและกระทบกระเทือนไปทั่วโลก” เขาบอกกับผู้ชุมนุม “ประชาชนของเราและรัฐบาลชาติต่างๆ ควรกดดันประชาคมนานาชาติให้ออกกฎหมายสากลและแห่งชาติสำหรับอาชญากรผู้ดูหมิ่นศาสนา”
