เอเอฟพี - ชาวอเมริกันจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่และแม้แต่คนผิวขาว เริ่มมองตนเองเป็นพลเมืองชั้นสองมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ผลการศึกษาซึ่งเผยแพร่วานนี้(10) ระบุ
ผลสำรวจความคิดเห็นทั่วสหรัฐฯโดยสถาบันวิจัยพิว พบว่า ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ร้อยละ 32 คิดว่าตนเองอยู่ในกลุ่มพลเมืองด้อยโอกาส จากสถิติร้อยละ 25 เมื่อ 4 ปีก่อน
ร้อยละ 39 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-29 ปี มองว่า ตนเองยังไต่บันไดทางสังคมไปได้ไม่ถึงไหน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากข้อมูลปี 2008 ถึง 14 จุด
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีชาวอเมริกันผิวขาวเพียงร้อยละ 21 ที่มองตนเองเป็นพลเมืองชั้นล่าง แต่มาปีนี้กลับเพิ่มจำนวนเป็นร้อยละ 31 ขณะที่ชาวอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกคิดเช่นนั้นร้อยละ 40 จากเดิมร้อยละ 30
ในทางตรงกันข้าม ชาวอเมริกันผิวสีที่คิดว่าตนเองเป็นพลเมืองชั้นสองกลับคงอยู่ที่ร้อยละ 33 ไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะที่ยังเหลือเวลานับถอยหลังสู่วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ถึง 60 วัน ฐานเสียงเดโมแครตที่มองตนเองว่าด้อยโอกาสยังมีจำนวนมากกว่าฐานเสียงของรีพับลิกัน ทว่าเมื่อเทียบกันในภาพรวมแล้วกลับพบว่า ผู้สนับสนุนรีพับลิกันที่คิดว่าตนเองเป็นพลเมืองชั้นสองกลับเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่า
ประชากรชั้นล่างในอเมริกากำลังเผชิญช่วงเวลาอันยากลำบาก โดย 8 ใน 10 คน หรือร้อยละ 84 กล่าวว่า พวกเขาต้องลดรายจ่ายลงตลอดปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี
นอกจากนี้ พลเมืองชั้นล่างยัง “มีความสุขน้อยลง สุขภาพแย่ลง และมีความเครียดมากกว่าประชากรวัยผู้ใหญ่กลุ่มอื่นๆ” ผลสำรวจระบุ
ชาวอเมริกันร้อยละ 77 มองว่า การทำมาหากินในยุคนี้ยากลำบากกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
อเมริกันผิวสีและฮิสแปนิกยังมีมุมมองที่ดีเกี่ยวกับอนาคตของลูกหลานมากกว่าคนผิวขาว ซึ่งร้อยละ 42 เกรงว่า คุณภาพชีวิตของคนรุ่นลูกจะย่ำแย่ลงกว่าปัจจุบัน
ผลวิจัยดังกล่าวสรุปจากการสอบถามความเห็นพลเมืองวัยผู้ใหญ่ 2,508 คนทางโทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 16-26 กรกฎาคม