เอเอฟพี - มหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนเตรียมดำเนินการทางกฎหมาย หลังถูกรัฐบาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตออกวีซา จนทำให้นักศึกษาต่างชาติหลายพันชีวิตเสี่ยงถูกเนรเทศ
มหาวิทยาลัย ลอนดอน เมโทรโพลิแทน มีสถานะความน่าเชื่อถือสูงสุด (Highly Trusted) จึงได้รับอนุญาตให้สนับสนุนการออกวีซาแก่นักศึกษานอกสหภาพยุโรปได้ ทว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอังกฤษ (UKBA) กลับสั่งเพิกถอนสิทธิดังกล่าวเมื่อวันพุธที่แล้ว(29) หลังใช้เวลาตรวจสอบนาน 6 เดือนจนพบ “ความผิดพลาดอย่างเป็นระบบขั้นรุนแรง”
มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์วานนี้(3) โดยยืนยันว่า ได้สั่งการให้ทนายความ “เริ่มดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อให้นักศึกษาสามารถกลับมาเรียนได้ตามปกติโดยด่วนที่สุด”
“จากกรณีที่มีข่าวว่า ยูเคบีเอ สั่งเพิกถอนใบอนุญาตของเราเมื่อ 8 วันก่อน ทางมหาวิทยาลัยได้อ่านรายงานฉบับดังกล่าวแล้ว... และได้ร่วมกับทีมที่ปรึกษาศึกษาหลักฐานต่างๆของ ยูเคบีเอ อย่างละเอียด และเราขอคัดค้านคำตัดสินนี้อย่างถึงที่สุด”
ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยจะเปิดเผยรายละเอียดของขั้นตอนทางกฎหมายภายในสัปดาห์นี้ โดยยืนยันว่า “ไม่มีหลักฐานความผิดพลาดในเชิงระบบ” ในส่วนของมหาวิทยาลัยเอง
เดเมียน กรีน รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองอังกฤษ เปิดเผยว่า จากผลการตรวจสอบพบว่า นักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีทักษะภาษาอังกฤษต่ำกว่ามาตรฐาน และมหาวิทยาลัยก็ไม่มีการตรวจสอบว่านักศึกษาเข้าเรียนหรือไม่
นอกจากนี้ยังพบว่า นักศึกษาต่างชาติกว่า 1 ใน 4 ที่ถูกสุ่มตรวจไม่มีใบอนุญาตพำนักอยู่ในอังกฤษอย่างถูกต้อง
กรีน ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุบีบีซีว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจพบ “ความผิดพลาอย่างเป็นระบบขั้นร้ายแรง จึงเห็นว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นผู้สนับสนุนวีซานักศึกษา”
จากคำตัดสินดังกล่าวทำให้นักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัย ลอนดอน เมโทรโพลิแทน มีเวลาเพียง 60 วันที่จะไปสมัครเรียนในสถาบันแห่งอื่น และกว่า 2,000 คนเสี่ยงที่จะถูกเนรเทศหากไม่สามารถหาที่เรียนใหม่ได้ สหภาพนักศึกษาแห่งชาติ เผย
รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองแถลงต่อสภาเมื่อวานนี้(3)ว่า จะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือแก่นักศึกษาที่ถูกลอยแพ พร้อมให้ความมั่นใจแก่ผู้ที่ต้องการเข้าไปศึกษาต่อในอังกฤษว่า เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดระบบมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ