สมาชิกหน่วยซีลส์ออกหนังสือแฉวินาทีปลิดชีพ “บินลาดิน” แย้งข้อมูลรบ.สหรัฐฯ

เอเอฟพี - หนึ่งในสมาชิกหน่วยรบพิเศษ “ซีลส์” แต่งหนังสือเผยประสบการณ์ล่าสังหารอดีตผู้นำอัลกออิดะห์ อุซามะห์ บินลาดิน โดยหนังสือจะเริ่มวางแผงในสัปดาห์หน้า

ข้อมูลจากหนังสือเล่มนี้เปิดเผยว่า บินลาดิน ถูกยิงเข้าที่ศีรษะขณะโผล่มาที่ประตู จากนั้นก็ถูกสาดกระสุนใส่อีกชุดใหญ่หลังล้มลงไปนอนชักกระตุกอยู่กับพื้น

สิ่งที่หนังสือบอกเล่ามีความขัดแย้งบางประการกับข้อมูลที่รัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา เผยต่อสาธารณชน และคาดว่าจะจุดกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรงเรื่องการเก็บรักษาความลับของชาติ

หนังสือ “No Easy Day” เป็นการเผยประสบการณ์ตรงครั้งแรกของผู้ที่ร่วมปฏิบัติการปลิดชีพผู้นำอัลกออิดะห์เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2011 และยังเผยด้วยว่า หน่วยซีลส์คนหนึ่งนั่งทับศพของ บินลาดิน ระหว่างที่นำขึ้นเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กออกจากปากีสถาน

ข้อมูลที่วอชิงตันเผยอย่างเป็นทางการมีอยู่ว่า เมื่อ บินลาดิน โผล่มาเห็นหน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ เขาก็วิ่งกลับเข้าไปในห้องนอน ซึ่งทำให้หน่วยซีลส์เชื่อว่าเขาจะหยิบอาวุธต่อสู้ จึงตัดสินใจใช้กำลังยับยั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้แต่งหนังสือซึ่งใช้นามแฝงว่า “มาร์ก โอเวน” กลับบอกว่า บินลาดิน ถูกยิงเข้าที่ศีรษะทันทีที่โผล่ออกมาจากประตู ก่อนที่หน่วยซีลส์จะบุกเข้าไปในห้องของเขา ตามเนื้อความบางส่วนของหนังสือที่สื่อสหรัฐฯนำไปอ้างอิง และได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่กลาโหมด้วย

บินลาดิน ซึ่งบาดเจ็บสาหัสนอนดิ้นพราดๆอยู่บนพื้น โดยมีสตรีในครอบครัว 2 รายนั่งร้องไห้คร่ำครวญอยู่ข้างๆ หน่วยซีลส์ได้ผลักสตรีเหล่านั้นออกไป และยิงใส่ร่างผู้นำอัลกออิดะห์อีกชุดใหญ่

“เรายิงไปหลายนัด... กระสุนเจาะเข้าไปในร่างของเขาที่กองอยู่กับพื้น ก่อนจะแน่นิ่งไป”

สำนักพิมพ์ดัตตันในเครือเพนกวินกรุ๊ปตัดสินใจเลื่อนกำหนดวางจำหน่ายจากวันที่ 11 กันยายน มาเป็น 4 กันยายน หลังมีประชาชนแห่สั่งจองหนังสือเป็นจำนวนมาก

รัฐบาลสหรัฐฯแถลงว่า ศพของบินลาดินได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติ และผ่านพิธีศพตามหลักศาสนาอิสลามก่อนจะฝังลงในทะเล แต่หนังสือกลับเผยว่า พื้นที่ในเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กนั้นคับแคบจนหน่วยซีลส์นายหนึ่งต้องนั่งทับบนหน้าอกของศพ

เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯคนหนึ่งยืนยันว่า ไม่มีการดูหมิ่นศพของ บินลาดิน อย่างแน่นอน แม้สิ่งที่ผู้แต่งหนังสือเอ่ยอ้างจะตรงกับความจริงก็ตาม พร้อมอธิบายว่าเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยซีลส์ลำหนึ่งประสบอุบัติเหตุตกระหว่างลงจอด จึงทำให้หน่วยคอมมานโดทั้งหมดต้องแออัดกันอยู่บนเฮลิคอปเตอร์เพียงลำเดียวที่เหลือ

“บนเครื่องมีพื้นที่จำกัดมาก เมื่อเสียเฮลิคอปเตอร์ไปลำหนึ่ง ทุกคนจึงต้องเข้าไปรวมกันในนั้น” เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อระบุ และชี้ว่า บางครั้งหน่วยรบพิเศษก็ต้องนั่งทับมาบนศพของเพื่อนร่วมทีมที่เสียชีวิตไป

เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยข่าวกรองและหน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ (Special Operations Command) ซึ่งกำกับดูแลหน่วยซีลส์ กำลังพิจารณาเนื้อหาของหนังสือว่ามีการนำความลับทางราชการหรือยุทธศาสตร์ลับไปเปิดเผยหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะถือว่าละเมิดกฎของเพนตากอน และต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า ผู้แต่งหนังสือเป็นอดีตหน่วยซีลส์ที่เคยร่วมในปฏิบัติการช่วยเหลือกัปตัน ริชาร์ด ฟิลิปส์ ซึ่งถูกโจรสลัดโซมาเลียจับเป็นตัวประกันเมื่อปี 2009