เอเจนซี - เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ย้ำเมื่อวันจันทร์ (20) ว่ามีแค่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่สามารถอนุมัติให้ใช้กำลังทหารกับซีเรีย พร้อมเตือนสติชาติตะวันตกกับสิ่งที่เขาเรียกมันว่า “การใช้ระเบิดกำหนดประชาธิปไตย”
คำเตือนของลาฟรอฟต่อการแทรกแซงใดๆ มีออกมาท่ามกลางเหตุจลาจลต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่กินเวลายาวนานกว่า 17 เดือน และลุกลามบานปลายขึ้นเรื่อยๆโดยปราศจากสัญญาณแห่งการหยุดยิงใดๆ ขณะที่สหรัฐฯและชาติอื่นๆ กำลังพิจารณาหามาตรการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อยุติเหตุนองเลือด
“มันชอบธรรมแล้วที่เราต้องปกป้องกฎบัตรสหประชาชาติที่ระบุเอาไว้ว่าการใช้กำลังต่อชาติใดๆ จะทำได้ก็ต่อเมื่อเป็นการตัดสินใจโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเท่านั้น” ลาฟรอฟ กล่าวที่กรุงเฮลซิงกิ ระหว่างเข้าพบเหล่าแกนนำในรัฐบาลฟินแลนด์
“สถานการณ์ของซีเรียมีความสำคัญและมันไม่ได้ก่อความกังวลเพราะแค่เหตุนองเลือดเท่านั้น แต่เพราะผลของเหตุความไม่สงบนี้ยังจะเป็นตัวตัดสินด้วยว่าในความพยายามคลี่คลายความขัดแย้งนั้น ระหว่างกฎบัตรสหประชาชาติหรือประชาธิปไตยโดยระเบิด แนวทางไหนจะเป็นฝ่ายชนะ”
รัสเซีย มักปกป้องอัสซาด ณ ที่ประชุมสหประชาชาติอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้วยการขัดขวางมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้นำรายนี้หรือปฏิเสธการใช้กำลังจากภายนอกเพื่อยุติความขัดแย้ง นอกจากนี้มอสโกยังให้การสนับสนุนอาวุธแก่รัฐบาลซีเรีย หลังมีเสียงคร่ำครวญว่าฝ่ายกบฏได้รับอาวุธที่ผลิตโดยชาติตะวันตกจำนวนมาก
ข้อมูลของสหประชาชาติพบว่าจนถึงตอนนี้มีผู้คนล้มตายไปแล้วอย่างน้อย 18,000 รายในซีเรีย นับตั้งแต่การปฏิวัติต่อต้านอัสซาดเริ่มต้นขึ้น และมีประชาชนแล้วอย่างต่ำ 170,000 คน ที่อพยพหลบหนีออกนอกประเทศ