เอเอฟพี/เอเจนซี - พวกมือระเบิดปฏิบัติการฆ่าตัวตายหมู่โจมตีจังหวัดนิมรุซ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอัฟกานิสถาน ติดกับชายแดนอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 คนและบาดเจ็บมากกว่าครั้งน้อย ขณะที่ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุรุนแรงนี้
การโจมตีที่เมืองซารานจ์ นับเป็นเหตุรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีที่จังหวัดแห่งนี้ อันเสมือนเป็นดินแดนแห่งสันติภาพ เนื่องจากจังหวัดนิมรุซเจอเหตุนองเลือดน้อยครั้งมากเมื่อเทียบกับที่อื่นๆท่ามกลางเหตุความไม่สงบจากฝีมือของกลุ่มตอลิบานที่เกาะกุมอัฟกานิสถานมายาวนานกว่าทศวรรษ
ตำรวจเผยว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายมีทั้งหมด 11 คน และแยกกันไปก่อเหตุตามจุดต่างๆ โดย 3 ในนั้นลงมือได้สำเร็จ ขณะที่คนอื่นๆ ที่เหลือไม่ถูกจับกุมก็โดนเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม
มูจิบุลเลาะห์ ลาติฟี รองผู้บังคับการตำรวจท้องถิ่นบอกกับเอเอฟพีว่า “มีกลุ่มมือระเบิด 11 คนที่ต้องการโจมตีทั่วเมืองอย่างพร้อมเพรียง” เขากล่าว “หน่วยความมั่นคงวิสามัญมือระเบิดได้ 2 คนเมื่อคืนนี้ และ 3 คนถูกจับได้ในตอนเช้า ส่วนอีก 3 คนยอมมอบตัวแล้ว อย่างไรก็ตามมีอยู่ 3 รายที่จัดการจุดชนวนระเบิดตนเอง”
ด้าน อับดุล คาริม บราฮาวี ผู้ว่าราชการจังหวัด เผยว่า “เรายืนยันว่ามีพลเรือน 21 คนและเจ้าหน้าที่ความมั่นคง 15 นายเสียชีวิตในเหตุโจมตีนี้ ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 66 คน”
ยังไม่มีใครออกมาอ้างอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ แต่ปฏิบัติการโจมตีแบบนี้ ปกติแล้วจะกล่าวโทษไปที่กลุ่มหัวรุนแรงตอลิบาน ที่กำลังต่อสู้เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีฮามิด คาร์โซ ซึ่งได้รับการสนับสนันจากชาติตะวันตก
นาโตมีกำลังพลที่นำโดยสหรัฐฯ อยู่ราว 130,000 นาย สำหรับช่วยรัฐบาลอัฟกานิสถานต่อสู้กับตอลิบาน แต่พวกเขามีกำหนดถอนกำลังออกไปในปี 2014 ทั้งนี้โฆษกของนาโตระบุยังไม่ทราบรายละเอียดของเหตุโจมตี แต่ ส.ส.ท้องถิ่นรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับทีวีว่าการโจมตีนี้เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนที่ไม่สามารถอ้างเหตุผลได้
รายงานครึ่งปีของสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่ามีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้ว 1,145 ราย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายนปีนี้ ขณะที่ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ 1,954 คน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 15 สืบเนื่องจากสภาพอากาศอันเลวร้ายที่เป็นอุปสรรคต่อการสู้รบ