ทางการฟิลิปปินส์ประกาศเตือนวันนี้ (13) ว่าพายุลูกใหม่ที่กำลังเคลื่อนตัวมายังประเทศอาจทำให้เกิดฝนตกหนักอีกครั้ง โดยเฉพาะในเมืองหลวง และพื้นที่โดยรอบที่ยังคงประสบภัยน้ำท่วมทำลายล้าง ซึ่งคร่าชีวิตเหยื่อไปแล้ว 92 ราย
ศูนย์บริหารและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์เผยว่า ผู้คนเกือบครึ่งล้านชีวิตรวมตัวกันอย่างแออัดตามศูนย์อพยพต่างๆ ขณะที่จำนวนผู้ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมใหญ่ทั้งหมดมีมากกว่า 3.4 ล้านคน
สถานการณ์น้ำท่วมในกรุงมะนิลาเริ่มบรรเทาเบาบางลงแล้วเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าผู้คนอีกหลายแสนรายตามเมืองเกษตรกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำทางตอนเหนือของเมืองหลวงจะยังคงถูกตัดขาดจากส่วนอื่นๆ เนื่องด้วยน้ำท่วมที่มีระดับความสูงถึงคอ
เบนิโต รามอส หัวหน้าหน่วยป้องกันพลเรือน ระบุว่า ผู้คนเหล่านี้น่าเป็นกังวลมากที่สุด เนื่องจากพวกเขายังไม่ฟื้นตัวจากภัยพิบัติอย่างเต็มที่แต่ก็กำลังจะถูกพายุลูกใหม่พัดถล่มอีก ซึ่งทางการได้คงระดับการเตือนภัยไว้จนกว่าจะเห็นผลกระทบของสภาพอากาศแปรปรวนนี้อย่างเต็มที่
ในเช้าวันนี้สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์รายงานว่า พบพายุดีเปรสชันอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศราว 600 กิโลเมตรในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ และผ่านฟิลิปปินส์ไปแบบเฉียดๆ เท่านั้น ทว่า น่าจะพัดพาเอาพายุฝนตกรุนแรงในคืนวันจันทร์ (13) ด้วย
สำนักงานดังกล่าวชี้ว่า พายุดังกล่าวอาจมีปฏิกิริยากับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ตามฤดูกาล ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักระลอกใหม่อีก ซึ่งพายุฝนลักษณะเดียวกันนี้เพิ่งจมพื้นที่กว่า 80% ของกรุงมะนิลาไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำให้เมืองหลวงแห่งนี้ชะงักงัน
หน่วยงานรัฐหลายแห่งได้เร่งตรวจสอบการเกิดโรคระบาด และแจกจ่ายถุงยังชีพไปตามศูนย์อพยพต่างๆ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 92 รายจาก 85 ราย ที่มีรายงานก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (12) โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุจากจมน้ำเสียชีวิต
สำหรับ ย่านมานาบอง เขตชายฝั่งติดอ่าวมะนิลา ผู้คนเริ่มกลับไปเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเองแล้วในวันนี้ แม้จะมีคำเตือนให้เตรียมพร้อมที่จะอพยพหนีอุทกภัยอีกครั้ง