เอเอฟพี - ไฟป่ายังคงเผาผลาญเขตอนุรักษ์ธรรมชาติบนหมู่เกาะคะเนรีของสเปน ขณะที่นักผจญเพลิงของกรีซก็เร่งสกัดไฟป่าที่กำลังลามเข้าใกล้ภูเขาเอธอส (Mount Athos) แหล่งมรดกโลกและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์
ไฟได้เผาผลาญพื้นที่ป่าในสเปนไปแล้วหลายร้อยเฮกตาร์โดยไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงโดยง่าย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เกือบจะสามารถควบคุมไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปีได้แล้ว ทว่าไฟกลับเริ่มปะทุอีกครั้งที่เมืองลาโกเมรา บนหมู่เกาะคะเนรี
พื้นที่ป่าในเมืองลาโกเมราถูกเพลิงเผาผลาญไปแล้วราว 3,000 เฮกตาร์ รวมถึง 1 ใน 10 ของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติการาโคเนย์ ซึ่งองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศเป็นมรดกโลก
ไฟป่าในเมืองลาโกเมราและเกาะเตเนรีเฟ ทำให้ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนแล้ว 4,700 คนภายในเวลาเพียง 2 วัน
เจ้าหน้าที่ส่งเครื่องบินดับเพลิงเข้าไปสกัดกั้นไฟป่าในเขตอนุรักษ์การาโคเนย์ ซึ่งเป็นผืนป่าเขตร้อนที่ปกคลุมภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนมานานนับสิบล้านปี และมีพืชพรรณถึง 450 ชนิด รวมถึง 8 ชนิดที่พบได้ในป่าแถบนี้เพียงแห่งเดียว
เวนตูรา เดล คาร์เมน โรดริเกซ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมแห่งหมู่เกาะคะเนรี แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ผืนป่าที่ถูกเผาในเขตอนุรักษ์การาโคเนย์อาจต้องใช้เวลาฟื้นตัว 30-40 ปี
ขณะเดียวกัน นักผจญเพลิงของกรีซและเซอร์เบียก็กำลังเร่งต่อสู้ไฟป่าที่ลุกลามเข้าใกล้ภูเขาเอธอส ที่ตั้งของชุมชนโบสถ์คริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์โธดอกซ์ 20 แห่ง ซึ่งปกครองตนเองและมีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปีตั้งแต่สมัยอาณาจักรไบแซนไทน์
ไฟป่าเริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อบ่ายวานนี้(11) โดยยังไม่มีโบสถ์หลังใดได้รับความเสียหาย แต่การดับเพลิงก็ทำได้ยากลำบาก เนื่องจากกระแสลมแรงและเปลี่ยนทิศทางอยู่ตลอดเวลา
กรีซต้องเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งนับเป็นการซ้ำเติมความทุกข์ยากจากวิกฤตหนี้สินครั้งใหญ่
