เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กวานนี้ (8) ขยับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน จากการขายทำกำไรของนักลงทุนและความวิตกต่อวิกฤตหนี้ยูโรโซน ปัจจัยหลังนี้ก็ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ขณะที่ทองคำกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลการผลิตในอเมริกา
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 32 เซ็นต์ ปิดที่ 93.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 14 เซ็นต์ ปิดที่ 112.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 3 เดือน
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์ก เป็นผลจากข่าวคราวทางเศรษฐกิจที่น่ากังวลของอีกฟากฝั่งแอตแลนติก หลังพบว่าผลผลิตทางอุตสาหกรรมของเยอรมนี ชาติยักษ์ใหญ่ในยูโรโซน ลดลงเหนือความคาดหมายในเดือนมิถุนายน และธนาคารกลางอังกฤษ ปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ของประเทศลงเหลือระดับเฉียดร้อยละศูนย์หรือเกือบไม่เติบโตเลย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้(8) ปิดในกรอบแคบๆ จากข่าวที่ผสมผสานเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทต่างๆและข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าเป็นกังวลในยูโรโซน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 6.81 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,175.41 จุด แนสแดค ลดลง 4.61 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,011.25 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.82 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,402.17 จุด
ดิสนีย์ เผยว่า มีกำไรในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน ถึง 1,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่การเพิ่มขึ้นของรายได้ไม่เป็นไปตามที่คาดคะเนไว้ ทำให้หุ้นของบริษัทสื่อและสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.4 ขณะที่หุ้นของ แมคโดนัลด์ ปิดลบร้อยละ 1.7 หลังพบว่ายอดขายต่อสาขาทั่วโลกที่เปิดมาอย่างต่ำ 1 ปี ทรงตัวในเดือนกรกฎาคม
ส่วนราคาทองคำวานนี้ (8) ขยับขึ้นเล็กน้อย จากข้อมูลผลิตภาพทางบวกของสหรัฐฯ และความคาดหมายว่านักลงทุนต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วยนโยบายการเงิน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์หรือร้อยละ 0.2 ปิดที่ 1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์