น้ำมันพุ่งหลังพายุจ่ออ่าวเม็กซิโก หุ้นมะกันบวก-ทองคำปิดลบ

เอเอฟพี - ความหวังต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความกังวลต่อปัญหาอุปทานตึงตัวจากผลกระทบของเฮอร์ริเคนที่ก่อตัวในแคริบเบียน ผลักให้ราคาน้ำมันพุ่งแรงวานนี้ (7) ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวก หลังนักลงทุนคาดเฟดและอีซีบีจะลงมือสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ทองคำขยับลงในกรอบแคบๆ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เหล่านักวิเคราะห์ชี้ว่าตัวเลขภาคแรงงานเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ อันแช่มชื่นที่เผยออกมาเมื่อวันศุกร์ (3) ประกอบกับสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของอเมริกากำลังเติบโตในอัตราที่เร็วขึ้น ได้ก่อความคาดหวังต่ออุปสงค์ทางพลังงานภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่แห่งนี้

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันวานนี้ (7) ยังได้แรงหนุนจากความกังวลทางอุปทาน เมื่อพายุไต้ฝุ่นเอร์เนสโต ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นเฮอริเคน ด้วยแรงลม 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือสู่แหลมยูคาทานของเม็กซิโกและตอนล่างของอ่าวเม็กซิโก อันเป็นฐานผลิตน้ำมันอันสำคัญ

ด้าน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (7) ปิดบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 51.09 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,168.60 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 25.95 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,015.86 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 7.12 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,401.35 จุด

นักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษา เวลล์ส ฟาร์โก ระบุว่า “ตลาดหุ้นทั้งหลายขยับขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดเดาว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมออกมาจากอีซีบีเร็วๆ นี้ ขณะที่ความเคลื่อนไหวของเฟดก็ส่งผลกระทบในทางบวก หลังจาก เอริก โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาบอสตัน ย้ำถึงจุดยืนของเขาต่อการขยายนโยบายทางการเงิน”

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำวานนี้ (7) ปิดลบเล็กน้อย จากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินยูโรท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 1.50 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,614.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์