xs
xsm
sm
md
lg

เฟซบุ๊กเซ็ง! พบบัญชีผู้ใช้เกือบร้อยละ 9 เข้าข่ายเป็น “แอคเคานต์ด้อยคุณภาพ” ไม่มีทางทำเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ข้อมูลจากการเปิดเผยของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ระบุว่าในจำนวนสมาชิกของเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังอย่าง “เฟซบุ๊ก” 955 ล้านบัญชีทั่วโลกนั้น มีกว่า 8.7 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 83 ล้านบัญชีที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าอาจเป็นบัญชีซ้ำซ้อน หรือเป็นบัญชีที่เฟซบุ๊กไม่อาจใช้สร้างรายได้

รายงานดังกล่าวซึ่งเฟซบุ๊กยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า ในขณะนี้ เฟซบุ๊กมีสมาชิกที่ลงทะเบียนทั่วโลกกว่า 955 ล้านบัญชีเมื่อสิ้นสุดช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ซึ่งถือเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีสมาชิกมากที่สุดของโลกอย่างไรก็ดี ในจำนวนดังกล่าวมีกว่า 8.7 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นบัญชีสมาชิกที่ซ้ำซ้อนกัน บัญชีที่จงใจทำขึ้นเพื่อปลอมตัวสวมรอยเป็นบุคคลอื่น หรือไม่ก็เป็นบัญชีที่มีผู้สมัครให้กับสัตว์เลี้ยงของตน รวมถึงบัญชีที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อไว้ใช้สำหรับการแพร่กระจายพวกอีเมลขยะต่างๆ ซึ่งหมายความว่าจำนวนผู้ใช้งานที่แท้จริงของเฟซบุ๊กมีไม่ถึง 955 ล้านคน

ข้อมูลระบุว่า จำนวนยูสเซอร์ที่มีบัญชีเฟซบุ๊กมากกว่าหนึ่งบัญชีอาจมีสัดส่วนสูงถึง 4.8 เปอร์เซ็นต์ของบัญชีสมาชิกทั้งหมด ขณะที่อีกกว่า 2.4 เปอร์เซ็นต์เป็นบัญชีของบริษัท กลุ่ม หรือเป็นบัญชีที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสัตว์เลี้ยง และอีกราว 1.5 เปอร์เซ็นต์เข้าข่ายเป็นบัญชีที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่อีเมลขยะ หรือ “สแปม” รูปแบบต่างๆ

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าสัดส่วนของ “บัญชีเน่า” ที่ด้อยศักยภาพในการสร้างรายได้ให้แก่เฟซบุ๊กเหล่านี้มีจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินโดนีเซียและตุรกี สวนทางกับในสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆ ที่มีบัญชีประเภทดังกล่าวลดน้อยลง

นักวิเคราะห์ระบุว่า การเปิดเผยตัวเลขบัญชีสมาชิกของเฟซบุ๊กเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า เฟซบุ๊กมี “แอคเคาต์ที่ไม่สามารถก่อให้เกิดรายได้” อยู่ในมือคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 9 จนก่อให้เกิดคำถามตามมาถึงขีดความสามารถในการทำกำไร และความอยู่รอดของเครือข่ายสังคมออนไลน์แห่งนี้ในระยะยาว ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า บรรดาผู้บริหารของเฟซบุ๊กกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อสร้างรายได้จากกลุ่มผู้ใช้งานผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่กำลังเติบโต

รายงานข่าวระบุว่า ทันทีที่รายงานข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของเฟซบุ๊กร่วงลงต่ำกว่า 20 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 630 บาท) เป็นครั้งแรก ซึ่งหมายความว่า มูลค่าหุ้นของเฟซบุ๊กได้ลดต่ำลงแล้วเกือบครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่ที่มีการนำหุ้นเฟซบุ๊กเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาด “แนสแดค” เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และทำให้เฟซบุ๊กสูญเสียมูลค่าทางการตลาดไปแล้วเกือบ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท)
กำลังโหลดความคิดเห็น