เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีโยเวรี มูเซเวนี แห่งยูกันดาออกโรงเตือนประชาชนเมื่อวันจันทร์(30) ให้หลีกเลี่ยงการจับมือทักทายกับผู้อื่น รวมถึงให้งดเว้นจากการมีเพศสัมพันธ์ในระยะนี้ เพื่อลดโอกาสติดเชื้อไวรัสมรณะอีโบลา หลังการระบาดของเชื้อดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 14 ราย ภายในระยะเวลาเพียง 72 ชั่วโมง
“เราไม่สนับสนุนให้ผู้คนจับมือทักทายกันในช่วงนี้ เราชาวยูกันดาไม่ได้เป็นชนชาติที่หยิ่งจองหองที่ไม่ยอมทักทายกับใคร แต่เราจำเป็นต้องงดการแสดงออกดังกล่าว เพื่อรักษาชีวิตของเราเอาไว้” ประธานาธิบดีมูเซเวนีวัย 68 ปีกล่าว พร้อมย้ำว่าการมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขคาดว่าการระบาดของเชื้ออีโบลารอบล่าสุดที่มีการยืนยันเป็นครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ (27) ที่ผ่านมา แท้จริงแล้วน่าจะเริ่มมาตั้งแต่ราว 3 สัปดาห์ก่อนที่หมู่บ้านเอ็นยานสวิกา ในเขตคิบาเล ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และอยู่ห่างจากกรุงกัมปาลา เมืองหลวงของยูกันดาราว 170 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เชื้อไวรัสอีโบลาซึ่งไม่มีทางรักษาให้หายได้ สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสร่างกาย หรือการสัมผัสกับของเหลวเกือบทุกชนิดจากร่างกาย โดยเชื้อมรณะชนิดนี้มีต้นกำเนิดในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งพบการระบาดครั้งแรกในปี ค.ศ. 1976 ส่วนคำว่า “อีโบลา” ก็นำมาจากชื่อของแม่น้ำสายหนึ่งในประเทศดังกล่าว