เอเอฟพี - เกิดเหตุเพลิงไหม้บนขบวนรถไฟด่วนของอินเดียซึ่งกำลังมุ่งหน้าจากกรุงนิวเดลีไปยังเมืองเจนไน ส่งผลให้ผู้โดยสารถูกไฟครอกเสียชีวิตอย่างน้อย 32 ราย เจ้าหน้าที่อินเดียเผย วันนี้(30)
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ใกล้กับเมืองเนลลอร์ในรัฐอานธรประเทศ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าต้นเพลิงน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
“เรานำร่างผู้เสียชีวิต 32 คนออกมาจากรถไฟได้แล้ว” มธุสุดัน ซาร์มา เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงประจำเขตเนลลอร์ ให้สัมภาษณ์ พร้อมเสริมว่า ยังมีศพอีกจำนวนหนึ่งติดอยู่ภายในรถ ส่วนผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ 26 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
หน่วยกู้ภัยต้องต่อสู้กับอุณหภูมิที่ร้อนจัดภายในตู้โดยสารซึ่งทำจากโลหะเกือบทั้งหมด โดยมีการใช้เครื่องตัดเหล็กเพื่อเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปดับไฟได้สะดวกขึ้น
ภาพจากสื่อท้องถิ่นเผยให้เห็นหน่วยกู้ภัยนับสิบคน รวมถึงผู้รอดชีวิตและประชาชนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ พากันมุงดูร่างเหยื่อที่ถูกนำมาวางเรียงข้างๆรางรถไฟ โดยแต่ละร่างล้วนถูกไฟเผาดำเป็นตอตะโก
ครอบครัวผู้เสียชีวิตต่างส่งเสียงร่ำไห้ระงม ขณะที่ผู้รอดตายซึ่งยังช็อกไม่หายก็หอบหิ้วสัมภาระออกมานั่งสงบสติอารมณ์เงียบๆ
“ผมตื่นขึ้นมาเห็นคนกำลังวิ่งเข้ามาในตู้รถไฟที่ผมนอนอยู่ ผมอยู่ในตู้ S-10 ซึ่งติดกับตู้ S-11 ที่เกิดไฟไหม้” ชันตานู หนึ่งในผู้รอดชีวิต ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ เอ็นดีทีวี
บี. ศรีธาร์ เจ้าหน้าที่อาวุโสในเมืองเนลลอร์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่า ต้นเพลิงน่าจะเกิดจากแผงไฟฟ้าใกล้ห้องสุขาเกิดลัดวงจร
“เราคาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตบนตู้โดยสารที่ถูกไฟไหม้น่าจะอยู่ที่ 30-35 คน... ไฟลุกลามเร็วมาก และปิดกั้นประตูทางออกฝั่งหนึ่งไว้ ผู้โดยสารจึงสามารถหนีออกทางประตูอีกด้านหนึ่งเท่านั้น” ศรีธาร์ ให้สัมภาษณ์กับเอ็นดีทีวี
รถไฟซึ่งไม่จอดรับผู้โดยสารรายทางขบวนนี้แล่นมาด้วยความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขณะที่มาถึงสถานีเนลลอร์ เจ้าหน้าที่ก็สังเกตเห็นเพลิงไหม้ จึงรีบแจ้งให้การรถไฟทราบทันที
ระบบรางยังคงเป็นทางเลือกหลักสำหรับชาวอินเดียที่ต้องเดินทางไกล แม้จะมีสายการบินเอกชนจำนวนมากที่แข่งกันดึงดูดลูกค้าก็ตาม
นายกรัฐมนตรี มาน โมฮัน ซิงข์ กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหยื่อเพลิงไหม้ พร้อมสั่งการให้กระทรวงการรถไฟแห่งชาติประสานงานบรรเทาทุกข์อย่างเต็มที่
