เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-จำนวนผู้ยื่นขอซื้อปืนในมลรัฐโคโลราโดของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุมือปืนหนุ่ม “เจมส์ โฮล์มส์” ก่อเหตุบุกกราดยิงที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในย่านชานเมืองเดนเวอร์ขณะมีการฉายภาพยนตร์เรื่องแบทแมน ตอน “The Dark Knight Rises ” เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน และบาดเจ็บอีก 58 ราย ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของสำนักงานสอบสวนมลรัฐโคโลราโด (ซีบีไอ) เมื่อวันอังคาร (24)
ข้อมูลของซีบีไอซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบประวัติของบรรดาผู้ที่ยื่นขอจดทะเบียนเป็นเจ้าของอาวุธปืนในมลรัฐโคโลราโดระบุว่า ตลอดระยะเวลา 3 วัน นับตั้งแต่เกิดเหตุกราดยิงเมื่อ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางซีบีไอก็ได้รับคำขออนุญาตจดทะเบียนครอบครองอาวุธปืนจากประชาชนถึง 2,887 ราย ที่ยื่นเรื่องผ่านตัวแทนจำหน่ายปืนทั่วมลรัฐ เพิ่มขึ้นจากยอด 2,012 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า
ด้านดอน กาญาร์โด ผู้จัดการร้านขายปืนแห่งหนึ่งในเมืองฟีนิกซ์ มลรัฐแอริโซนาที่อยู่ใกล้เคียง เผยว่า ปรากฏการณ์ที่ประชาชนในมลรัฐโคโลราโดแห่กันซื้อปืนดังกล่าว มีเหตุผลสำคัญนั่นคือ ประชาชนต้องการมีปืนไว้เพื่อความปลอดภัย เพื่อความอุ่นใจ และเพื่อไว้ใช้ป้องกันตนเอง เนื่องจากผู้คนได้ตระหนักแล้วว่า เหตุกราดยิงเป็นภัยคุกคามที่อยู่ใกล้ตัวของพวกเขามากกว่าที่คิด
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า คะแนนนิยมของประชาชนในมลรัฐโคโลราโดที่มีต่อนายจอห์น ไวรท์ ฮิคเคนลูเพอร์ ผู้ว่าการรัฐคนปัจจุบันยังคงสูงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญที่โรงภาพยนตร์ดังกล่าว เนื่องจากผู้ว่าการรัฐฯวัย 60 ปีสังกัดพรรคเดโมแครตรายนี้ แทบไม่ได้พักผ่อนตลอดหลายวันที่ผ่านมา จากการที่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางไปเยี่ยมเหยื่อกราดยิงที่ได้รับบาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของผู้เสียชีวิต จนสร้างความประทับใจให้กับประชาชนจำนวนมาก ถึงขั้นที่บรรดานักวิเคราะห์การเมืองในพื้นที่ระบุว่า อนาคตทางการเมืองของผู้ว่าการรัฐรายนี้อาจรุ่งเรื่องถึงขีดสุดจนอาจได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี ค.ศ. 2016 ด้วยซ้ำ