xs
xsm
sm
md
lg

Weekend Focus: จอมพล“คิมจองอึน” ยึดกองทัพโสมแดง ปลดฟ้าผ่าผบ.ทหาร - เปิดตัว “สตรีหมายเลขหนึ่ง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สถานการณ์การเมืองในเกาหลีเหนือยังเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง เมื่อล่าสุดรัฐบาลเปียงยางตัดสินใจปลดนายพล รี ยอง-โฮ นายทหารคนสนิทของอดีตผู้นำ คิม จอง อิล ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการเสนาธิการทหารอย่างกระทันหัน หนำซ้ำไม่กี่วันต่อมายังยกฐานะผู้นำ คิม จอง อึน ขึ้นเป็น “จอมพล” กุมอำนาจสูงสุดในกองทัพอีกด้วย ขณะที่พฤติกรรมแหวกธรรมเนียมของผู้นำเกาหลีเหนือคนใหม่ที่ปรากฎผ่านสื่อบ่อยครั้งก็ทำให้นักวิเคราะห์เริ่มจับตามองถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างช้าๆในดินแดนโสมแดง ซึ่งโดดเดี่ยวตัวเองมานานกว่าครึ่งศตวรรษ
ผู้นำ คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือ
แม้เปียงยางจะอ้างปัญหาสุขภาพมาเป็นเหตุปลด รี ยอง-โฮ ออกจากทุกตำแหน่ง แต่ภาพที่ปรากฏผ่านสื่อไม่นานนี้กลับชี้ชัดว่า รี ยังมีสุขภาพแข็งแรงดีทุกประการ ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่า การอำลาตำแหน่งของเขาน่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังจากความขัดแย้งกับผู้นำ คิม จอง อึน มากกว่า ซึ่งดูจะมีเค้าความจริงอยู่บ้าง เพราะหลังจาก รี สูญเสียอำนาจได้ไม่กี่วัน คิม จอง อึน ก็สถาปนาตนเองขึ้นเป็นจอมพลแห่งกองทัพ กุมอำนาจสูงสุดไว้ในมือแต่เพียงผู้เดียว

รี ยอง-โฮ วัย 69 ปี ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเสนาธิการทหารแห่งกองทัพประชาชนเกาหลี ตั้งแต่ปี 2009 ควบตำแหน่งสำคัญในพรรคแรงงาน และเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการกรมการเมืองซึ่งเป็นหน่วยงานสูงสุดของประเทศ นายพลผู้นี้จัดอยู่ในกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในรัฐคอมมิวนิสต์ เช่นเดียวกับ จาง ซอง-แต๊ก อาเขยของ คิม และบุคคลใกล้ชิดอีกไม่กี่คนซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้นำเกาหลีเหนือ

นับตั้งแต่ คิม จอง อึน ถูกยกสถานะเป็นทายาทการเมืองของบิดาในปี 2010 รี ยอง-โฮ ก็ทำหน้าที่ติดตามเขาไปแทบทุกหนแห่ง และจะปรากฎตัวคั่นกลางระหว่างอดีตผู้นำ คิม จอง อิล กับบุตรชายคนเล็ก ในงานพิธีต่างๆเสมอ

อดีตผู้นำ คิม ซึ่งปกครองเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 1994 จวบจนถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปีที่แล้ว ยกย่องให้กองทัพมีความสำคัญเหนือสถาบันใดๆของประเทศ ดังนั้น การที่บุตรชายของเขาสั่งปลดนายทหารระดับสูงออกจากตำแหน่งโดยไม่มีเหตุอันควร จึงมิใช่เรื่องปกติธรรมดา

หลังมีประกาศปลด รี ยอง-โฮ ได้ไม่นาน คณะกรรมาธิการทหารกลางเกาหลีเหนือก็แต่งตั้ง ฮยอน ยอง-ชอล นายทหารซึ่งแทบไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อน ให้ดำรงตำแหน่งพลตรีแห่งกองทัพโสมแดง และนับเป็นนายทหารคนที่ 4 ที่ได้เลื่อนยศเป็นพลตรีโดยความเห็นชอบของผู้นำ คิม จอง อึน
คิม จอง อึน กับสตรีนิรนาม ซึ่งลือกันว่าอาจเป็นน้องสาวหรือภรรยาของเขา
ชอง ซอง-จาง จากสถาบันวิจัยเซจองในเกาหลีใต้ ระบุว่า ฮยอน ยอง-ชอล น่าจะได้แทนตำแหน่งเก่าของ รี ยอง-โฮ อย่างเต็มตัวในอีกไม่ช้า ขณะที่ ฮอง ฮยุน-อิก นักวิเคราะห์จากสถาบันเดียวกันทำนายว่า ผู้นำเกาหลีเหนืออาจสั่งปลดระวางเจ้าหน้าที่สูงวัยคนอื่นๆในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ตามยุทธศาสตร์ “เปลี่ยนรุ่นผู้บริหาร”

การโยกย้ายบุคลากรในเกาหลีเหนือมักเกิดขึ้นอย่างลึกลับ และไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน ทว่าก็มีเจ้าหน้าที่บางรายที่สามารถยืนหยัดในตำแหน่งไปได้ตลอดชีวิต เช่น โจ เมียง-ร็อก อดีตผู้บัญชาการทหารคนก่อนหน้า รี ยอง-โฮ ซึ่งเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ ขณะมีอายุได้ 82 ปี

จอห์น เดลูรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากวิทยาลัยนานาชาติศึกษา มหาวิทยาลัยยอนเซ ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการปลด รี ยอง-โฮ เกิดจากความขัดแย้งภายในกองทัพ หรือเป็นเพียงความพยายามของ จอง อึน ที่ดึงอำนาจจากขุนนางหัวเก่ามาไว้ในมือ แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ รี ยอง-โฮ เริ่มมีบทบาทในช่วงท้ายยุคผู้นำ คิม จอง อิล จึงอาจเป็นไปได้ว่า เขาถูกวางตัวให้ปฏิบัติหน้าที่เพียงชั่วคราว และภารกิจของเขาก็สำเร็จลุล่วงลงแล้ว

รัฐบาลสหรัฐฯก็ออกมาแสดงความเห็นต่อการเปลี่ยนตัวผู้นำกองทัพเกาหลีเหนือ โดยมองว่า แม้การปลดนายทหารระดับสูงจะเป็นสัญญาณบ่งชี้การเปลี่ยนแปลง แต่ตราบใดที่เปียงยางยังไม่ประกาศเปลี่ยนนโยบายอย่างชัดเจน การเปลี่ยนตัวผู้นำกองทัพก็แทบไม่มีความหมายอะไร ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญบางคนที่ว่า นี่อาจเป็นเพียงกลยุทธ์เปลี่ยนตัวองครักษ์พิทักษ์ผู้นำ แต่ไม่ได้สะท้อนการปฏิรูปชนิดถึงรากถึงโคน

ระยะนี้ยังเกิดกระแสวิจารณ์พฤติกรรมแหวกม่านประเพณีของผู้นำเกาหลีเหนือ โดยสื่อโสมแดงได้รายงานภารกิจของ คิม จอง อึน ที่ต้องนับว่า “แปลก” สำหรับผู้นำคอมมิวนิสต์ เช่น การไปชมคอนเสิร์ต, ตรวจเยี่ยมสวนสนุก, เยี่ยมเยียนโรงเรียนอนุบาล และพาหญิงสาวนิรนามออกงานด้วยเป็นประจำ จนสื่อมวลชนและนักวิเคราะห์ในเกาหลีใต้ต่างมึนงงสงสัยว่า เธอผู้นี้เป็นน้องสาวคนใดคนหนึ่งของคิม หรือเป็น “สตรีหมายเลขหนึ่ง” ของเกาหลีเหนือกันแน่
อดีตผู้บัญชาการกองทัพ รี ยอง-โฮ
แหล่งข่าวบางคนระบุว่า สตรีนิรนามผู้นี้น่าจะเป็น คิม โย-จอง บุตรสาวคนหนึ่งของอดีตผู้นำ คิม จอง อิล ซึ่งเคยเดินทางไปศึกษาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์พร้อมกับ จอง อึน แต่บางกระแสก็ว่าเธอคือนักร้องสาว ฮยอน ซอง-วอล ที่ จอง อึน หลงรักมานานนับสิบปี และเคยถูกบิดาสั่งห้ามไม่ให้คบหากัน

แม้จะมีเพียงคำร่ำลือ แต่หากเธอคือภริยาของ คิม จอง อึน จริง ก็นับเป็นการแหวกธรรมเนียมครั้งใหญ่ เพราะผู้นำเกาหลีเหนือในอดีตล้วนไม่เคยพาศรีภรรยาออกมาปรากฎตัวต่อสาธารณชนด้วยกันเลย

ผู้นำ คิม ดูจะให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องของพลเมืองมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มยกตำแหน่งสำคัญให้กับเจ้าหน้าที่รุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวโสมแดงให้ทัดเทียมประเทศอื่น ซึ่งอาจเรียกได้ว่า เป็นการผ่อนปรนนโยบาย “ซอนกุน” หรือทหารนำพลเรือน ที่เกาหลีเหนือยึดถืออย่างเคร่งครัดมาตั้งแต่รุ่นประธานาธิบดี คิม อิล ซุง

จอง อึน ยังอนุญาตให้ประชาชนใช้โทรศัพท์มือถือ ทานอาหารแบบตะวันตก และให้สตรีสามารถสวมกางเกงขายาวในที่สาธารณะ ทั้งที่ค่านิยมเหล่านี้เคยเป็นที่ต้องห้ามอย่างเด็ดขาดในสมัยอดีตผู้นำ คิม จอง อิล และมีบทลงโทษอย่างรุนแรงสำหรับผู้ฝ่าฝืนด้วย

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความเคลื่อนไหวที่กำลังเกิดขึ้นในเกาหลีเหนือบ่งบอกถึงกระแสปฏิรูปที่เริ่มเห็นได้รางๆ ซึ่งน่าติดตามกันต่อไปว่า คิม จอง อึน ที่หลายฝ่ายเคยปรามาสว่าอ่อนประสบการณ์และเป็นเพียงผู้นำหุ่นเชิด จะสามารถกุมอำนาจสูงสุดไว้ในมือ และนำพารัฐโสมแดงออกมาสู่โลกแห่งความเจริญก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนได้หรือไม่.
คิม จอง อึน เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในกรุงเปียงยาง
กำลังโหลดความคิดเห็น