เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่รายหนึ่งยอมรับเมื่อวันพฤหัสบดี (19) แทบไม่มีหวังสำหรับผู้สูญหายอีกราว 80 คน หนึ่งวันหลังจากเกิดเหตุเรือเฟอร์รีล่มในมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งแทนซาเนีย ขณะที่เวลานี้สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้ว 62 ศพ
เรือเฟอร์รีลำนี้ซึ่งมีตัวเลขอย่างเป็นทางการว่าบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 281 คน ในนั้นเป็นเด็กมากกว่า 30 ราย ประสบอุบัติเหตุอัปปาง ในน่านน้ำที่ผัวผวนนอกชายฝั่งเมืองซานซิบาร์ หลังออกเดินทางจากเมืองดาเอสซาลาม ศูนย์กลางการค้าของแทนซาเนีย ราวๆ เที่ยงวันของวันพุธ (18)
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ โมฮัมเมด เอ็มไฮนา โฆษกตำรวจซานซิบาร์ ยอมรับว่ามีความหวังเพียงเล็กน้อยที่จะช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม และมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 145 ราย
“ปฏิบัติการค้นหายังดำเนินต่อไป แต่ตอนนี้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่เราจะเจอผู้รอดชีวิตหมดแล้ว” เขาบอก “เรือพลิกคว่ำโดยสิ้นเชิงและมีคนอยู่บนเรือ 290 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินรายหนึ่งเผยว่า สามารถช่วยเหลือคนที่อยู่บนเรือได้ 146 คนและกู้ศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 62 ศพ
ด้าน นายจากายา คิเควเต ประธานาธิบดีแทนซาเนีย กล่าวในถ้อยแถลงว่า “โศกนาฏกรรมนี้ส่งผลกระทบต่อเราทุกคน ความทุกข์ทรมานของคนเหล่านี้ สร้างความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานแก่เราทุกคนเช่นกัน เราภาวนาให้ผู้ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่เดือน ตามหลังโศกนาฏกรรมครั้งเลวร้ายด้านการเดินเรือของแทนซาเนียในเดือนกันยายนปีก่อน โดยคราวนั้นเรือเฟอร์รีสไปซ์ ไอส์แลนเดอร์ อับปางในเส้นทางเดียวกันนี้ คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 200 ศพ และกลายเป็นหนึ่งในหายนะทางทะเลครั้งเลวร้ายที่สุดในแอฟริกาในรอบทศวรรษ
เอ็มไฮนาเปิดเผยต่อว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายเป็นอุปสรรคต่อการกู้ภัยและช่วยเหลือ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องระงับปฏิบัติการเมื่อคืนวันพุธ (18) และเริ่มลงมือค้นหาอีกครั้งในช่วงเช้าตรู่วันพฤหัสบดี (19)
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ตามบัญชีผู้โดยสารเรือลำนี้บรรทุกผู้ใหญ่ 251 คน เด็ก 31 คน และลูกเรือ 9 คนในนั้นเป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 16 คน และได้รับความช่วยเหลือขึ้นมาได้แล้ว 14 ราย
อย่างไรก็ตาม เรือเฟอร์รีในแถบภูมิภาคนี้ บ่อยครั้งที่ลักลอบเพิ่มเติมผู้โดยสารเข้าไปและไม่มีการแจ้งบัญชีอย่างเป็นทางการแก่เจ้าหน้าที่