เอเอฟพี - ราคาน้ำมันพุ่งกว่า1ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์(16) จากยูโรแข็งค่าและความตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย ส่วนวอลล์สตรีท ปิดลบจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ ขณะที่ราคาทองคำทรงตัว
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มจึ้น 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดเผยว่าเรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ เปิดฉากยิงเข้าใส่เรือประมงอินเดียในอ่าวเปอร์เซีย เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกประสงค์ร้าย จนทำให้ลูกเรือเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 3 คน
ขณะที่ แมตต์ สมิธ นักวิเคราะห์จากซัมมิท เอเนอร์จี เสริมว่าด้วยยูโรที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ผลักให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างแรง โดยปิดตลาดเมื่อวันจันทร์(16) สกุลเงินยุโรแข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.24 จากของวันศุกร์(14)
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(16) ปิดลบเล็กน้อย จากตัวเลขค้าปลีกมะกันที่ลดลงผิดความคาดหมายในเดือนมิถุนายน และยังเป็นการปรับลด 3 เดือนติด เพิ่มความกังวลต่อความอ่อนแอของการใช้จ่ายผู้บริโภค อันเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 49.20 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,727.89 จุด แนสแดค ลดลง 11.53 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,896.94 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.13 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,353.65 จุด
ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯเผยให้เห็นว่ายอดค้าปลีกภายในประเทศประจำเดือนมิถุนายน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.5 ท่ามกลางราคาน้ำมันเบนซินที่ถดถอยและผู้บริโภคลดการใช้จ่าย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2
ส่วนราคาทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้(16) ลดลง 0.40 ดอลลาร์หรือราวร้อยละ 0.03 อยู่ที่ 1,591.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการปรับลดแนวโน้มราคาทองของปีนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านราคาทองปรับลดประมาณการณ์ราคาทองคำในปีนี้ลง หลังประสบภาวะเฉื่อยชาในช่วงครึ่งปีแรก ผลสำรวจรายไตรมาสของรอยเตอร์เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(16)ขณะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและอุปสงค์พื้นฐานต่อทองคำจริงที่อ่อนแอ ก็อาจจะขัดขวางความพยายามปีนกลับสู่สถิติสูงสุดที่เคยทำเอาไว้เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ไปตลอดช่วงที่เหลือของปี