เอเอฟพี - หนึ่งในแกนนำอาวุโสของตอลิบานให้สัมภาษณ์นิตยสารนิวสเตทส์แมนของอังกฤษ ยอมรับ กลุ่มติดอาวุธของเขาไม่มีทางเอาชนะในสงครามอัฟกานิสถานได้ พร้อมเผยความรู้สึกโล่งใจที่ อุซามะห์ บิน ลาดินเสียชีวิต
สำหรับชื่อเสียงเรียงนามของแกนนำรายนี้ไม่ได้รับการเปิดเผยในบทสัมภาษณ์ แต่ถูกอ้างถึงเพียงว่า มัลวี หรือมุลเลาะห์ ขณะที่มีการระบุว่าผู้สัมภาษณ์คือ ไมเคิล เซมเพิล ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับตอลิบาน ซึ่งเคยเป็นทูตพิเศษของยูเอ็นในอัฟกานิสถานมาก่อน และปัจจุบัน ทำงานอยู่กับศูนย์นโยบายสิทธิมนุษย์คารร์ ณ ฮาร์วาร์ด
"คงต้องให้มีการแทรกแซงโดยพระผู้เป็นเจ้าเพื่อให้ตอลิบานชนะในสงครามนี้" แกนนำคนดังกล่าวเผยกับเซมเพิล ตามบทสัมภาษณ์ที่ตัดตอนลงบนเว็บไซต์ของนิตยสารฉบับนี้ และว่า "การที่จะตอลิบานจะครอบครองคาบูลนั้นเป็นอนาคตที่ห่างไกลมากๆ"
กลุ่มตอลิบานเคยมีอำนาจในอัฟกานิสถานตั้งแต่ปี 1996 จนกระทั่งถูกโค่นล้มเมื่อสหรัฐฯ นำกองกำลังนานาชาติบุกประเทศในปี 2001 เพื่อไล่ล่าอุซามะห์ บิน ลาดิน แกนนำเครือข่ายอัลกออิดะห์ และนับแต่นั้นก็เข้าร่วมการก่อเหตุนองเลือดที่รุนแรงขึ้น
มัลวียังระบุว่า สมาชิกกลุ่มตอลิบานไม่ต่ำกว่า 70% โกรธแค้นอัลกออิดะห์ โดยมองว่าอัลกออิดะห์เป็นเหมือนโรคระบาด ที่สวรรค์ส่งลงมา
"พูดตามจริง ผมรู้สึกโล่งอกต่อการเสียชีวิตของอุซามะห์ ด้วยนโยบายต่างๆ ของเขา เขาทำลายอัฟกานิสถาน หากเขาเชื่อในญีฮัดจริงๆ เขาควรที่จะไปซาอุดีอาระเบีย และทำญีฮัดที่นั่น มากกว่าทำให้ประเทศของเราพบกับหายนะ"
ขณะนี้ ขบวนการตอลิบานต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังของรัฐบาลประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ ที่มีชาติตะวันตกให้การสนับสนุนด้วยกำลังทหารพันธมิตรนาโตกว่า 130,000 นาย ซึ่งมีกำหนดถอนทัพกลับไปภายในสิ้นปี 2014
"เป็นธรรมชาติของสงคราม ที่ทั้งสองฝ่ายต่างฝันถึงชัยชนะ ทว่าดุลแห่งอำนาจในสงครามความขัดแย้งของอัฟกันนั้นชัดเจน" มัลวีกล่าว โดยเขาถูกระบุว่าเป็นผู้สั่งการระดับอาวุโสที่สุดคนหนึ่งของตอลิบานที่ยังมีชีวิตอยู่ และยังเป็นคนสนิทที่ไว้ใจได้ของผู้นำ
สำหรับมุมมองที่แสดงออกในบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ขัดแย้งกับคำแถลงอันฮึกเหิมของกลุ่มตอลิบานอย่างยิ่ง แต่มัลวีชี้ว่า "ในเวลานี้ ตราบเท่าที่มุลเลาะห์ โอมาร์ยังมีชีวิต ตอลิบานจะเตรียมพร้อมดำเนินตามคำสั่งของเขาในการต่อสู้นี้"