เอเจนซีส์ - ผู้พิพากษาเทกซัสระบุ นักบินที่ 1 ของสายการบินเจ็ตบลู อยู่ในอาการวิกลจริต จึงไม่มีความผิดในการก่อกวนการบิน หลังเกิดอาการคุ้มคลั่งกระทั่งผู้โดยสารต้องช่วยกันควบคุมตัว และนักบินที่ 2 นำเครื่องลงจอดฉุกเฉินเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เคลย์ตัน ออสบอน วัย 49 ปี ถูกตั้งข้อหาก่อกวนลูกเรือ ซึ่งอาจถูกตัดสินจำคุกสูงสุด 20 ปี
ในเอกสารของศาลที่เผยแพร่ออกมาวันอังคาร (3) ระบุว่า ผู้พิพากษาศาลแขวง แมรี ลู โรบินสัน ในอมาริลโล มลรัฐเทกซัส ได้รับรายงานการตรวจสอบสภาพจิตที่สรุปว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยมีอาการหรือความบกพร่องทางจิตขั้นรุนแรงที่ทำให้ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าอาการคุ้มคลั่งที่เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมที่ผิด ทั้งนี้ ทุกฝ่ายซึ่งรวมถึงอัยการยอมรับรายงานฉบับดังกล่าว
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผู้พิพากษาโรบินสันเพิ่งแถลงว่า ออสบอนไม่ได้มีอาการหรือความบกพร่องทางจิตและสามารถขึ้นให้การในศาลได้ ทั้งนี้ ในตอนนั้นออสบอนได้รับการตรวจสอบโดยนักจิตวิทยาที่รัฐบาลเป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่งไม่มีหน้าที่ในการระบุว่า เขามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนหรือไม่ขณะก่อเหตุเมื่อวันที่ 27 มีนาคม
จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์บนเครื่องบินเจ็ตบลู ออสบอนซึ่งเป็นนักบินที่ 1 ได้ออกจากห้องนักบิน มายังห้องโดยสาร เขาวิ่งไปวิ่งมาและพร่ำพูดเรื่องอัฟกานิสถาน อิรัก และอัลกออิดะห์ จนกระทั่งถูกผู้โดยสารช่วยกันล็อกตัวและกดลงบนพื้น ขณะที่เครื่องบินดังกล่าวที่มุ่งหน้าจากนิวยอร์กไปยังลาสเวกัสต้องลงจอดฉุกเฉินที่อมาริลโล
เอฟบีไอเผยว่า ก่อนหน้านั้นขณะอยู่ในห้องนักบิน ออสบอนพยายามก่อกวนระบบควบคุมการบินและเริ่มตะโกนว่า “เราไม่ได้จะไปเวกัส” และเตือนให้ทุกคนสวดมนต์ ดังนั้นจึงถูกนักบินที่ 2 กันเอาตัวออกมาข้างนอก
นอกจากตัดสินว่านักบินผู้นี้วิกลจริตขณะเกิดเหตุแล้ว ผู้พิพากษาโรบินสันยังมีคำสั่งให้นำตัวออสบอนไปยังเรือนจำในฟอร์ตเวิร์ธ เทกซัส เพื่อรับการตรวจสอบสภาพจิตเพิ่มเติม และกลับมาฟังการไต่สวนในวันที่ 6 สิงหาคม
ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ ผู้ที่ศาลวินิจฉัยว่าไม่มีความผิดเนื่องจากวิกลจริต อาจจะถูกจองจำจนกว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าสมควรที่จะได้รับการปล่อยตัว
ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารหลายคนในเที่ยวบินดังกล่าวได้ยื่นฟ้องเจ็ตบลูข้อหาละเลย โดยระบุว่า สายการบินควรรู้ว่าออสบอนพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนักบินหรือไม่