เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ สัญญาจะมอบความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางในเหตุไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดของโคโลราโด ขณะที่เขาเดินทางเยือนพื้นที่ประสบภัย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บ้านเรือนหลายร้อยหลังถูกเผาผลาญเสียหาย และยังต้องอพยพผู้คนกว่า 36,000 รายออกจากเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของมลรัฐ
หน่วยกู้ภัยยังคงค้นหาศพผู้เสียชีวิตในซากบ้านเรือนที่กลายเป็นเถ้าถ่าน เนื่องจากถูกไฟป่าวัลโดแคนยอนเผาผลาญไปไม่ต่ำกว่า 346 หลัง นับตั้งแต่ที่เพลิงดังกล่าวลุกลามเข้าไปยังเมืองโคโลราโด สปริงส์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนว่า บ้านอีกราว 20,000 หลังคา และอาคารพาณิชย์ร่วม 160 แห่งยังอยู่ในภาวะเสี่ยง
โอบามามองเห็นควันไฟจากกองเพลิงเบื้องล่าง ขณะที่เขาเดินทางไปยังโคโลราโดสปริงส์ด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน จากนั้นก็ลงสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายบางจุด เป็นเวลา 3 ชั่วโมง พร้อมกับกล่าวยกย่องความกล้าหาญ แน่วแน่ และความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
"พวกเขาเป็นวีรษุรุษตัวจริง" โอบามากล่าว หลังเยือนย่านชุมชนที่ถูกไฟไหม้ บ้านเรือหลายหลังกลายเป็นเถ้าถ่านสีดำ รถหลายคันหลอมละลายจากเปลวเพลิง อีกทั้งยังคงมีกลิ่นไหม้ลอยตลบอบอวลในอากาศ
ก่อนหน้าการลงพื้นที่ประสบภัย โอบามาประกาศให้เมืองโคโลราโดสปริงส์เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ซึ่งจะทำให้สามารถออกกองทุนช่วยเหลือสถานการณ์ฉุกเฉินจากรัฐบาลกลางได้
ปีเตอร์ แครี ผู้บังคับการตำรวจเมืองโคโลราโด สปริงส์ รายงานพบผู้เสียชีวิตรายที่ 2 ในวันศุกร์ (29) หลังจากพบศพแรกในคืนวันพฤหัสบดี (28) โดยเหยื่อทั้ง 2 รายนี้ถูกพบในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งเพลิงไหม้วอดวาย และคาดว่าน่าจะเป็นคู่สามีภรรยา
เจ้าหน้าที่ยังกังวลว่า อาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมในเหตุไฟป่า ซึ่งเริ่มปะทุมาตั้งแต่วันเสาร์ (23) ที่แล้ว และโหมหนักจนไม่สามารถควบคุมได้ในวันอังคาร (26) และวันพุธ (27) เนื่องจากกระแสลมรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมไฟได้แล้ว 25% ในคืนวันศุกร์ เพิ่มขึ้นจาก 15% ก่อนหน้าในวันเดียวกัน โดยยังรายงานว่าไฟป่าได้ลุกลามเผาผลาญกินพื้นที่กว่า 17,000 เอเคอร์ เพิ่มขึ้นจาก 16,750 เอเคอร์ ในวันพฤหัสบดี