เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - พ่อของสองพี่น้องนักท่องเที่ยวสาวชาวแคนาดาที่เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาในประเทศไทยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ออกโรงกล่าวหาเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจงใจปกปิดความจริงเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของบุตรสาว
รายงานข่าวระบุว่า นายคาร์ล เบลังเกอร์ พ่อของ น.ส.โนเอมี และออเดรย์ เบลังเกอร์ วัย 26 และ 20 ปี สองนักท่องเที่ยวจากแคว้นควิเบก ประเทศแคนาดา ที่ถูกพบเป็นศพอยู่ภายในห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะพีพี แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ออกมากล่าวหาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของไทยว่ามีพฤติกรรม “ปกปิดซ่อนเร้นความจริง” เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของบุตรสาวทั้ง 2 คน
นายเบลังเกอร์ เจ้าของร้านชำในเมืองโปเฮเนกามุค แคว้นควิเบก ซึ่งมีกำหนดจะทำพิธีฝังศพบุตรสาวทั้งสองในวันเสาร์ (30) ที่จะถึงนี้ กล่าวหาเจ้าหน้าที่ของไทยระหว่างการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวท้องถิ่นแห่งหนึ่งเมื่อวันอังคาร (26) โดยระบุว่า พบความผิดปกติหลายอย่างเกี่ยวกับผลการตรวจสอบการตายของบุตรสาว และการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไทย รวมถึงพฤติกรรมของพนักงานโรงแรมที่เกิดเหตุ
“เจ้าหน้าที่ของไทยอ้างว่าพวกเขาพบศพของลูกสาวผม 12 ชั่วโมงหลังจากที่พวกเขาเสียชีวิต แต่จากการคำนวณของผู้เชี่ยวชาญที่มอนทรีออล พวกเขาเชื่อว่าการพบศพเกิดขึ้นล่าช้าถึง 48 ชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยยังใช้เวลานานผิดปกติในการชันสูตรศพโดยไม่มีการแจ้งความคืบหน้าใดๆ ให้ทราบเลย” คาร์ลกล่าว พร้อมระบุว่าเคยเตือนบุตรสาวของตนว่า เมืองไทยเป็นสถานที่ที่น่ากลัว และบุตรสาวทั้งสองควรรีบจบทริปท่องเที่ยวในเมืองไทยโดยเร็ว
ท่าทีล่าสุดของนายเบลังเกอร์มีขึ้นหลังจากที่เขานำร่างไร้วิญญาณของบุตรสาวทั้งสองคนส่งไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่นครมอนทรีออล และกำลังอยู่ในระหว่างรอผลว่าบุตรสาวทั้งสองของเขาจะเสียชีวิตเพราะอาการ “อาหารเป็นพิษ” ตามที่ตำรวจไทยกล่าวอ้างจริงหรือไม่
ขณะที่สื่อท้องถิ่นในแคว้นควิเบกยังตั้งข้อสงสัยถึงหลักฐานที่เป็นภาพวิดีโอของโรงแรมที่เกิดเหตุ ซึ่งพบว่ามีชายชาวโปรตุเกส 2 คนอาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่ความล่าช้าในการทำงานของตำรวจไทย ส่งผลให้ชายทั้งสองที่น่าจะมีข้อมูลสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับผู้ตายได้เดินทางออกนอกประเทศไปเสียแล้ว
อย่างไรก็ดี นายเบลังเกอร์ได้กล่าวชื่นชมการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย ที่ช่วยดำเนินการนำศพของโนเอมีและออเดรย์กลับประเทศได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยอำนวยความสะดวกในอีกหลายเรื่อง