เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ผลการศึกษาของทีมนักวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ที่มีการตีพิมพ์ในวารสาร “แลนเซ็ต” ระบุ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือที่เรียกกันในระยะแรกว่า “หวัดหมู” นั้น อาจคร่าชีวิตผู้คนมากกว่าตัวเลขที่มีการรายงานในประเทศต่างๆ ทั่วโลกถึง 15 เท่า
ผลการศึกษาของซีดีซีระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือเชื้อมรณะชนิด เอช1เอ็น1 ดังกล่าวอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 284,500 คนทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวเลขความสูญเสียที่มากกว่ารายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ระบุว่าพบผู้เสียชีวิตทั่วโลกราว 18,500 คนเท่านั้น
ข้อมูลของทีมวิจัยจากซีดีซีเชื่อว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกราว 284,500 รายนั้น มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปแอฟริกา ขัดแย้งกับข้อมูลขององค์การอนามัยโลกที่ระบุว่ มีประชาชนในภูมิภาคดังกล่าวเสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้ราวร้อยละ 12 เท่านั้น
ด้านเซซิล ไวบาวด์แห่งสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ และโลน ซิมอนเซน ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ออกมาให้ความเห็นที่สอดคล้องกับผลการศึกษาของซีดีซี โดยระบุว่า ในช่วงที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นั้น มีโอกาสอย่างมากที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ รายงานไปยังองค์การอนามัยโลกอาจไม่ตรงกับความเป็นจริงด้วยเหตุผลต่างๆ โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือ ความยากลำบากในการจำแนกสาเหตุการเสียชีวิตที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1 กับการเสียชีวิตด้วยไข้หวัดตามฤดูกาล หรืออาการอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยตรง
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าเชื้อมรณะเอช1เอ็น1 ที่เริ่มระบาดครั้งแรกในช่วงต้นปี ค.ศ. 2009 จนถึงราวเดือนสิงหาคมปีถัดมา ได้ลุกลามไปยังกว่า 214 ประเทศทั่วโลก โดยผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 จะมีอายุต่ำกว่า 65 ปี
