เอเอฟพี - คนขับแท็กซี่แดนกิมจิกว่า 200,000 คันนัดรวมตัวกันประท้วงหยุดให้บริการเป็นเวลา 1 วัน ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก วันนี้ (20) เพื่อเรียกร้องขึ้นค่าโดยสาร และลดราคาแก๊สเชื้อเพลิง ส่งผลให้รัฐบาลต้องเพิ่มการให้บริการรถประจำทาง และรถไฟใต้ดินมากขึ้น
กระทรวงคมนาคมเผยว่า แท็กซี่ราว 220,000 คันจากผู้ที่จดทะเบียนทั้งหมดทั่วประเทศ 255,500 คัน นัดกันหยุดขับรถในวันนี้ โดยว่าจะมีรถบัสพิเศษวิ่งให้บริการในกรุงโซล และเมืองปูซาน รวมถึงบริการรถไฟ และรถไฟใต้ดินเพิ่มจากปกติด้วย
“เราไม่คิดว่าจะเกิดวิกฤตการคมนาคมขนส่งใหญ่โตอะไร เนื่องจากแท็กซี่ก็ไม่ใช่ส่วนสำคัญในการเดินทางประจำวันของผู้คนอยู่แล้ว” โฆษกกระทรวงดังกล่าวเผย “แต่เรายังคอยจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น เนื่องจากบริการรถเมล์ และรถไฟใต้ดินที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งรถแท็กซี่ที่หายไปนั้นก็ยังช่วยให้ท้องถนนโล่งมากขึ้นอีกด้วย
ด้านสหภาพคนขับแท็กซี่เกาหลีเผยว่า คนขับแท็กซี่กว่า 2 แสนคนจะเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ใจกลางกรุงโซล วันนี้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลขึ้นค่าโดยสารขั้นต่ำเป็น 2,400 วอน หรือประมาณ 65 บาท ตลอดจนลดราคาแก๊สแอลพีจี ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงของรถแท็กซี่ส่วนใหญ่
“ความไม่พอใจของคนขับแท็กซี่ซึ่งเก็บมานานในที่สุดก็ระเบิดออกมาในวันที่ 20 มิถุนายน” สหภาพแท็กซี่แถลง โดยชี้ว่าราคาแอลพีจีภายในประเทศสูงขึ้นถึง 50% ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา และกล่าวหาว่า ผู้ค้าแก๊สยักยอกผลประโยชน์เข้าตัว ขณะที่ความเป็นอยู่ของคนขับแท็กซี่ไม่สามารถเลวร้ายไปกว่านี้ได้อีก
“นี่เป็นการยื่นคำขาดสุดท้ายที่เรียกร้องขอเพื่อความอยู่รอดของเรา” สหภาพแท็กซี่เสริม
ขณะที่ กระทรวงคมนาคมชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า ได้เรียกร้องให้ผู้นำเข้าเชื้อเพลิงของเกาหลีใต้อย่างบริษัท เอสเคก๊าซ และอี 1 พยายามหาทางลดราคาเชื้อเพลิงลงแล้ว