เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (19) ว่า รัสเซียและจีนต่างตระหนักถึงพิษภัยของสงครามกลางเมืองในซีเรีย แต่ก็ยังไม่สนับสนุนแผนโค่นประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ลงจากตำแหน่ง
ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งได้ร่วมหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ของจีน ในการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จี 20 ที่เม็กซิโก กล่าวแสดงความหวังว่า ควรมีการเตรียมแผนถ่ายโอนอำนาจเพื่อนำเสนอแก่ประชาชนชาวซีเรียให้ได้ ภายในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
อย่างไรก็ดี โอบามายอมรับว่าปักกิ่งและมอสโกยังไม่เห็นด้วยกับแนวทางของชาติตะวันตกที่ยืนกรานว่า อัสซาด ต้องสละอำนาจเท่านั้น โดย ปูติน ถึงกับกล่าวตรงๆ ว่า “ไม่มีใครมีสิทธิ์ตัดสินแทนชาติอื่นว่าผู้ใดควรอยู่ในอำนาจ และผู้ใดควรไป”
โอบามาแถลงต่อสื่อมวลชนว่า ตนได้หารืออย่างจริงจังกับปูติน และหู ว่าด้วยปัญหาซีเรีย และเข้าใจถึงจุดยืนและการสงวนท่าทีของทั้ง 2 ประเทศดี
“ผมคงยังพูดไม่ได้ว่าขณะนี้สหรัฐฯ และประชาคมโลกอยู่ในแนวทางเดียวกับจีนและรัสเซีย... แต่ผมเชื่อว่าทั้ง 2 ชาติเข้าใจถึงอันตรายใหญ่หลวงของสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ”
โอบามากล่าวกับปูติน และหู ระหว่างหารือนอกรอบว่าอัสซาดไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศอีกต่อไป หลังจากสังหารหมู่พลเมืองของตนเองไปนับหมื่นคน
ผู้นำสหรัฐฯ ยังยอมรับว่ารัสเซียมีสายสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ที่ใกล้ชิดกับซีเรียมาก่อน และการที่จีนยังลังเลที่จะก้าวก่ายกิจการภายในของชาติอื่น เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการแก้ไขวิกฤตการณ์ซีเรีย
“คงไม่เป็นธรรมนักที่จะกล่าวว่ารัสเซียและจีนยอมรับรอง (แผนขับไล่อัสซาด) พวกเขาเข้าใจว่าสถานการณ์ในขณะนี้ร้ายแรง และไม่เป็นประโยชน์สำหรับพวกเขา”
“ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะยอมอภัยให้กับการสังหารหมู่ที่เราพบเห็นมา และเชื่อด้วยว่าพวกเขาคงเห็นด้วยว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย หากซีเรียมีกลไกที่จะยุติความรุนแรง และตั้งรัฐบาลที่มีความชอบธรรมขึ้น”
ถ้อยแถลงลักษณะนี้อาจเป็นภัยต่อโอบามาเองไม่น้อย เนื่องจากนักวิจารณ์ในสหรัฐฯ รวมถึงคู่แข่งในสนามเลือกตั้งอย่าง มิตต์ รอมนีย์ ต่างโจมตีว่าประธานาธิบดีพยายาม “ฟื้นสัมพันธ์” กับรัสเซีย ทั้งที่ปูตินถูกกล่าวหาว่ามีส่วนสนับสนุนความรุนแรงที่อัสซาดกระทำต่อประชาชน
โอบามาระบุว่า มหาอำนาจทั่วโลกควรร่วมมือกับโคฟี อันนัน ผู้แทนพิเศษองค์การสหประชาชาติ เพื่อร่างแผนคลี่คลายวิกฤตที่จะนำเสนอต่อชาวซีเรีย “ภายใน1-2 สัปดาห์ข้างหน้า”
ด้าน ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเดินทางไปร่วมการประชุม จี20 ที่เมือง ลอส คาบอส เช่นกัน แถลงว่าปูตินคงพร้อมที่จะแสดงบทบาทกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอำนาจในซีเรีย ซึ่งขัดต่อคำพูดของผู้นำรัสเซียเองที่ว่า “สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่การเปลี่ยนรัฐบาล ซึ่งก็จะต้องทำตามกรอบของรัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่การยุติความรุนแรง และคืนสันติภาพสู่ซีเรียมากกว่า”
ปูตินชี้ว่า ทุกฝ่ายควรนั่งลงและช่วยกันคิดหาทางออกล่วงหน้า ทั้งยังกล่าวเป็นนัยถึงสงครามขับไล่พันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบีย ซึ่งมีกองกำลังนาโตหนุนหลังว่า “อย่าให้เหมือนบางประเทศในแอฟริกาเหนือที่ความรุนแรงยังไม่จบ แม้จะเปลี่ยนรัฐบาลไปแล้วก็ตาม”