เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ทาเคชิ ฟูจิมากิ อดีตที่ปรึกษาด้านการลงทุนของ “จอร์จ โซรอส”พ่อมดการเงินชื่อก้องโลกเผย บรรดานักลงทุนควรซื้อสินทรัพย์ด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินสกุลอื่นของประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ยกเว้นญี่ปุ่น โดยให้เหตุผลว่ามีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่ญี่ปุ่นอาจก้าวเข้าสู่ภาวะล้มละลายทางการเงิน จนสูญเสีย “ความสามารถในการชำระหนี้” ภายในปี ค.ศ.2017หรือ 5 ปีนับจากนี้
“มีความเป็นไปได้ ที่ญี่ปุ่นจะกลายเป็นประเทศที่ก้าวเข้าสู่ภาวะที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ก่อนยุโรปเสียอีก และสิ่งที่ผมพูดถึงนี้อาจเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 5 ปีจากนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังมองไม่เห็นว่าญี่ปุ่นจะก้าวพ้นจากวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร” ฟูจิมากิกล่าวที่กรุงโตเกียว
ฟูจิมากิ ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน ให้กับกองทุนของจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อดังชาวอเมริกันเชื้อสายฮังกาเรียน ในช่วงก่อนปี ค.ศ.2000 เผยว่า ถ้ารัฐบาลญี่ปุ่นล้มละลาย และมีอันต้องผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ระหว่างประเทศ ก็อาจส่งผลให้เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงอย่างเลวร้ายถึงระดับ 400-500 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ราว 78.87เยนต่อ 1ดอลลาร์
ขณะที่ผลตอบแทนตามเกณฑ์มาตรฐานของพันธบัตรระยะเวลา 10 ปีของญี่ปุ่น ก็อาจพุ่งสูงเหนือระดับ 80 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น บรรดานักลงทุนจึงควรหาทางลดความเสี่ยงด้วยการหันไปถือครองเงินสกุลที่มีความแข็งแกร่ง อื่นๆ เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เงินฟรังค์ของสวิตเซอร์แลนด์ ปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษ รวมถึง เงินดอลลาร์ของออสเตรเลียและแคนาดา แทนที่เงินเยนของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า ยอดหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีหนี้สาธารณะที่สูงที่สุดในโลกจะพุ่งขึ้นถึง 245.6 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีในปี 2014 นี้ ถือเป็นการเพิ่มขึ้นของยอดหนี้ถึง 67.3 เปอร์เซ็นต์จากระดับเมื่อปี 1984 ขณะที่นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่นก็กำลังประสบปัญหาอย่างหนักในการหาเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาต่อแผนการขึ้นภาษี “Sales Tax” หรือภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้เรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้บริการอีก 1 เท่าตัวหรือราว 5 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2015 เพื่อให้ญี่ปุ่นมีเงินมากพอสำหรับนำไปชำระหนี้