เอเจนซี - ผู้หญิงชาวสหรัฐฯ รายหนึ่งได้รับบาดเจ็บแผลไฟไหม้ฉกรรจ์ หลังถูกสามีเก่าราดเบนซินและจุดไฟเผา ด้านนอกของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น เมื่อวันจันทร์ (11) เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ถูกบันทึกไว้ได้โดยกล้องวิดีโอวงจรปิดและเผยแพร่ต่อสาธารณชนในวันอังคาร (12) อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรคือมูลเหตุจูงใจของคดีนี้
สเตฟานี สลาเตอร์ โฆษกหญิงของตำรวจบอยน์ตันบีช เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่สตรีวัย 34 ปีรายนี้ นัดพบสามีเก่า ณ ร้านสะดวกซื้อชื่อดังเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในฟลอริดา เพื่อรอรับลูกชายวัย 4 ขวบ ซึ่งทั้งสองมีข้อตกลงดูแลร่วมกัน
ระหว่างที่จอดรถเมอร์เซเดส รออยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ นายรูเซเวลท์ มอนเดเซอร์ วัย 52 ปี ก็ขับรถจากัวร์มาถึง แต่เขาไม่ได้พาลูกชายมาด้วย และไม่นานเขาก็เริ่มสาดน้ำมันเบนซินไปที่รถยนต์และตัวของฝ่ายหญิง เมื่อเห็นดังกล่าวเหยื่อจึงพยายามหนี ทว่าเขาก็ยังกวัดแกว่งมีดวิ่งไล่ล่าเธอและจุดไฟที่ตัวฝ่ายหญิงอย่างเหี้ยมเกรียม
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า ชายคนนี้ข่มขู่ฝ่ายหญิงด้วยมีดเล่มใหญ่ ขณะที่เธอวิ่งเข้ามาหลบภายในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น และพยายามดึงประตูเอาไว้เพื่อไม่ให้ฝ่ายชายเข้ามาด้านใน “ไปให้พ้นนะ” เสียงผู้หญิงคนดังกล่าวตะโกน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายหญิงไม่สามารถสู้แรงของผู้ชายได้และทั้งคู่ก็หายไปจากจอพักหนึ่ง จากนั้นเหยื่อก็โผล่ออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ร่างของเธอถูกไฟลุกท่วม ผู้หญิงรายนี้กรีดร้องและวิ่งไปรอบๆ ที่จอดรถอย่างทุรนทุราย
เจ้าหน้าที่กระจายกำลังเดินเท้าค้นหาพร้อมสุนัขตำรวจ ขณะเดียวกันก็ส่งเฮลิคอปเตอร์ไล่ล่าคนร้ายจากทางอากาศด้วย และสุดท้ายก็พบนายมอนเดเซอร์หลบซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ๆ ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นนั่นเอง
เขาถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าและถูกส่งตัวไปรักษาแผลไฟไหม้ ณ โรงพยาบาลเบเทสดา เมโมเรียล ในบอยน์ตันบีช ก่อนถูกย้ายสู่สถานคุมขังต่อไป อย่างไรก็ตาม ตำรวจยอมรับว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบว่าอะไรคือสาเหตุของการโจมตีดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อเหยื่อ แต่คาดหมายว่าเธอน่าจะรอดชีวิต หลังจากถูกส่งไปรักษาตัวยังเดลเรย์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
