เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- ตัวเลขผู้ที่ต้องการหางานทำ กับสถาบันการเงินในย่านดังของกรุงลอนดอนลดลงกว่า 58 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลจากวิกฤตหนี้สินของกลุ่มประเทศยูโรโซน หรือประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลัก 17 ประเทศ
รายงานซึ่งอ้างผลสำรวจของมอร์แกน แม็คคินลีย์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินและการจ้างงานระบุว่า จำนวนผู้ที่ต้องการหางานทำในย่านการเงินชื่อดังของกรุงลอนดอน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เดอะ ซิตี้” และย่านอื่นในเมืองหลวงของสหราชอาณาจักรแห่งนี้ได้ลดลงเหลือเพียง 6,419 รายในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งที่เมื่อ 1 ปีก่อนหน้านั้น ยอดการสมัครงานในย่านการเงินของลอนดอนมีสูงถึง 15,150 ราย
แอนดรูว์ อีแวนส์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการของมอร์แกน แม็คคินลีย์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส เผยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้ ย่อมส่งผลให้บรรดานักการเงินมืออาชีพมีแนวโน้มที่จะมองหางานใหม่น้อยลง และหันไปทุ่มเทเพื่อรักษาตำแหน่งงานในปัจจุบันของตนเองเอาไว้ และในทางกลับกันบรรดาผู้สมัครรายใหม่ที่เคยสนใจสมัครงานในภาคการเงิน ต่างก็เบนเข็มไปสมัครงานในภาคธุรกิจอื่นๆ แทน เพราะกังวลถึงเสถียรภาพของสถาบันการเงินว่าอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สินของกลุ่มประเทศยูโรโซน
ขณะเดียวกันตำแหน่งงานใหม่ๆในภาคการเงินที่มีการเปิดรับก็ลดลงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ในเดือนที่แล้ว เหลือเพียง 5,229 ตำแหน่ง แม้ตัวเลขดังกล่าวจะสูงกว่าเดือนเมษายนราว 17 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี มีข้อมูลว่า ผู้ที่ทำงานในภาคการเงินของอังกฤษกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ยังคงได้รับเงินโบนัสประจำปีตามปกติ และราว 42 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า พวกเขาพอใจกับรายได้ในปัจจุบันที่พวกเขาได้รับจากการทำงานในสถาบันการเงินในลอนดอน