เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่กู้ภัยของไนจีเรียนำเอาร่างไร้ชีวิตที่ถูกไฟเผาไหม้เกรียมจำนวนหลายสิบศพออกมาจากที่เกิดเหตุเมื่อวันจันทร์ (4) ขณะที่พนักงานสอบสวนก็พยายามสืบหาร่องรอยเบาะแส ภายหลังเครื่องบินโดยสารของสายการบินไนจีเรียตกลงในย่านที่มีประชากรอาศัยหนาแน่นของเมืองลากอสในตอนบ่ายวันอาทิตย์ (3) ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องรวม 153 คนเสียชีวิตทั้งหมด นอกจากนั้นก็เกรงกันว่าผู้ที่อยู่บนภาคพื้นดินจะมีเสียชีวิตด้วย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยผู้หนึ่งเผยว่า เมื่อถึงตอนเช้าวันจันทร์ตามเวลาในท้องถิ่น ทีมงานกู้ภัยค้นพบศพผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 62 ศพ ท่ามกลางบรรยากาศการทำงานที่ตึงเครียด เนื่องจากมีฝูงชนกลุ่มใหญ่มหึมาเข้ามารายล้อมและพยายามบุกเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ แล้วปะทะกับตำรวจและทหารที่ใช้มาตรการแข็งกร้าวในการควบคุมสถานการณ์
ในตอนเช้าวันจันทร์นั้น ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชนที่ออกันอยู่ในจุดๆ หนึ่งแล้วพยายามบุกฮือเข้าไป ขณะที่ตามจุดอื่นๆ ทั่วทั้งบริเวณที่เครื่องบินตกและพุ่งชนใส่อาคารบนพื้นดินจนเกิดไฟไหม้ใหญ่ ผู้คนจำนวนมากก็พยายามดิ้นรนหาทางเข้าไป โดยหลายๆ คนบอกว่า ต้องการหาญาติมิตรที่ยังสูญหาย
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า การโหม่งโลกของเครื่องบิน เอ็มดี-83 ของสายการบินดานา แอร์ คราวนี้ ถือเป็นภัยทางอากาศร้ายแรงที่สุดของไนจีเรียนับตั้งแต่ปี 1992 เมื่อตอนที่เครื่องบินขนส่งของทหารแบบ ซี-130 ตกลงมาหลังจากเพิ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ณ สนามบินในเมืองลากอสนี้เช่นเดียวกัน โดยในคราวนั้นผู้อยู่บนเครื่องบิน 200 คนเสียชีวิตทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ แฮโรลด์ เดมูเรน ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนของไนจีเรีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่าเครื่องบินของดานา แอร์ ลำนี้ บินจาก อาบูจา เมืองหลวงของประเทศ ไปยังลากอสซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศคือราว 15 ล้านคน โดยมีผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 153 คน
สเตลลา อเดซ โอดูอาห์ รัฐมนตรีการบิน แถลงว่าเครื่องบินลำดังกล่าวแจ้งเหตุฉุกเฉินกับหอควบคุมเมื่อเวลา 15.43 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 21.43 น.เวลาเมืองไทย) ขณะอยู่ห่างจากสนามบิน 11 ไมล์ทะเล แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งนาทีก็หายไปจากจอเรดาร์และระเบิด
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติเสริมว่า เครื่องบินลำดังกล่าวพุ่งชนอาคาร 2 หลังคือ โบสถ์หลังหนึ่งและตึก 2 ชั้นซึ่งเป็นที่พักอาศัย ในเขตชานเมืองด้านเหนือของเมืองลากอส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลที่ไม่รุนแรงอย่างน้อย 3 คน และอีกราว 10 คนมีแผลไฟคลอกเนื่องจากติดอยู่ในอาคารที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยคาดด้วยว่า น่ามีผู้เสียชีวิตบนภาคพื้นดิน แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน
ภายหลังเครื่องบินตก บริเวณที่เกิดเหตุก็อยู่ในภาวะสับสนอลหม่าน เมื่อผู้คนนับพันพากันมุงรอบซากอาคารที่ถูกเครื่องบินชน แม้ตำรวจพยายามใช้กระบองเพื่อสกัดฝูงคนออกจากที่เกิดเหตุเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย แต่จำนวนคนที่แออัดมากทำให้รถพยาบาลบางคันไม่สามารถผ่านเข้าไปได้
ประธานาธิบดีกูดลัค โจนาธาน ประกาศลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน พร้อมสั่งการให้มีการตรวจสอบหาสาเหตุอย่างเต็มที่ และให้คำมั่นว่าจะทำทุกทางเพื่อรับประกันว่า อุบัติเหตุครั้งนี้จะเป็นบทเรียนเพื่อยกระดับความปลอดภัยการบินของประเทศ
ดานา แอร์ ระบุว่า ยังคงตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่พบกล่องบันทึกการบินและส่งให้ตำรวจแล้ว ขณะที่ เดมูเรน ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนของไนจีเรีย กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีในวันจันทร์ว่า นักบินของเครื่องบินที่ประสบภัยคราวนี้เป็นชาวอเมริกัน ส่วนนักบินผู้ช่วยเป็นชาวอินเดีย
อุบัติเหตุเครื่องบินตกไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับไนจีเรีย ประเทศเศรษฐกิจอันดับ 2 ของแอฟริกา แม้มีการปรับปรุงสถิติความปลอดภัยแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ตาม กระนั้น ดานา แอร์ ถือเป็นสายการบินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพทีเดียวนับแต่เริ่มเปิดให้บริการในปี 2008
นอกจากนี้ อุบัติเหตุครั้งนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (2) เครื่องบินขนส่งสินค้าของอัลลายด์ แอร์ คาร์โก้ลงจอดเลยรันเวย์ในสนามบินของกานา และชนกับรถรับส่งผู้โดยสาร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน
