xs
xsm
sm
md
lg

ระบุเหยื่อ “ซอมบี้” กินหน้าคนในไมอามีเคยเป็นวัยรุ่นอนาคตไกล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รูดี ยูจีน (ซ้าย) ชายเร่ร่อน ผู้เป็นเสมือนมนุษย์ซอมบี้ และ โรนัลด์ เอ็ดเวิร์ด ป๊อบโป (ขวา) เหยื่อ ที่ถูกกัดกินใบหน้าไปเกือบหมด
ไมอามีเฮอรัลด์ - ชายเร่ร่อน ซึ่งตกเป็นเหยื่อการโจมตีอันสุดสยองของมนุษย์ซอมบี้ ที่เขมือบใบหน้าของเขาไปเกือบทั้งหมดบนทางหลวงไมอามีนั้น เคยเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนดังในมหานครนิวยอร์ก ผู้มีอนาคตอันสดใส ก่อนจะกลายเป็นไอ้ขี้เมาเตร็ดเตร่อยู่ตามท้องถนนในเมืองไมอามี

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า เหยื่อผู้ถูกกัดกินใบหน้าไปเกือบหมดนี้คือ โรนัลด์ เอ็ดเวิร์ด ป็อบโป ซึ่งมีอายุครบ 65 ปีไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในขณะนี้เขายังมีอาการเป็นตายเท่ากันอยู่ที่ศูนย์อุบัติเหตุไรเดอร์ โรงพยาบาลแจ็กสัน เมโมเรียล

จากประวัติของโรงเรียนมัธยมสไตยเวแซนต์ เมื่อปี 1964 ป็อบโปอยู่ในรายชื่อเด็กนักเรียนที่มีไอคิว 129 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งยังมีรูปของเขาที่มีผมดกดำ ตาสีเข้ม และคางอันโดดเด่น และคางยังกลายเป็นอวัยวะส่วนเดียวที่ทำให้สามารถจดจำได้ว่าเป็นใบหน้าของเขา

ทั้งนี้ ตำรวจไมอามีได้วิสามัญฆาตกรรม รูดี้ ยูจีน มนุษย์ซอมบี้ ในวันเสาร์ (26) ที่ผ่านมา ในเหตุการณ์ที่ถือว่าสยดสยองที่สุดเหตุการณ์หนึ่งของมลรัฐฟลอริดา ขณะที่เขากำลังสวาปามใบหน้าของเหยื่อ บริเวณข้างทางหลวงแมคอาร์เธอร์ ซึ่งมีผู้คนสัญจรไปมาอย่างคับคั่ง

ด้าน อองตัวเนตต์ ป็อบโป ผู้เป็นน้องสาว เผยกับไมอามีเฮอรัลด์ว่า ทางครอบครัวไม่ได้ข่าวคราวจากผู้เป็นพี่ชายมานานหลายสิบปีแล้ว

“พวกเราคิดว่าเขาตายไปแล้วจริงๆ” ผู้เป็นน้องสาวกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ WFOR “พวกเราคิดว่าเขาไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว ฉันดีใจที่แม่ของฉันไม่ได้อยู่ที่นี่มาเห็นอะไรเช่นนี้”

หลังออกจากนิวยอร์กมา ป็อบโปก็อาศัยอยู่ในนิวออร์ลีนส์ รวมถึงฟลอริดาทางใต้ เขาเคยได้รับการรักษาบาดแผลถูกยิงที่โรงพยาบาลแจ็กสันในปี 1976 และยังถูกจับมามากกว่า 20 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นข้อหาเมา และนอนหลับในที่สาธารณะ

เขาใช้เวลาส่วนมากเร่ร่อนไปทั่วทางหลวงแมคอาร์เธอร์ และมีคนบอกว่าเขาอยู่ที่วัตสัน ไอส์แลนด์ด้วย

ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นเรียนต่างก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อทราบข่าวคราวของเขา โดยหนึ่งในนั้นคือ แดน รูวิน ซึ่งเผยว่า ป็อบโปได้เข้าวิทยาลัยนิวยอร์ก ไว้ผมยาว และน่าจะร่วมอยู่ในวงดนตรีด้วย เนื่องจากเขาชื่นชอบเพลงร็อกแอนด์โรลมาก

นอกจากนี้ ป็อบโปยังได้เซ็นสมุดเฟรนด์ชิปให้แก่รูวิน โดยลงชื่อว่าจาก “ประธานาธิบดีเชื้อสายอิตาเลียนคนแรกของทำเนียบขาว, 1984” ซึ่งในสมุดนั้นยังระบุว่าเขาอยู่ในชมรมละติน และได้รับประกาศนียบัตรทุนการศึกษาเหรียญทองแดงด้วย

พวกเขาขาดการติดต่อกัน หลังจากรูวินเข้าร่วมกองทัพในสมัยสงครามเวียดนาม โดยรูวินยังเผยว่ารู้สึกเสียใจที่ไม่มีใครคิดตามหาป็อบโป เมื่อบรรดาเพื่อนร่วมชั้นเรียนเริ่มติดต่อคนอื่นๆ ในปี 2003 ทั้งที่มีนักสืบมือฉมังหลายคน

ส่วน แบร์รี เฟล์ดแมน ครูสอนคณิตศาสตร์ผู้เกษียณอายุราชการแล้ว เผยว่า เขาจำอะไรเกี่ยวกับป็อบโปไม่ได้มากนัก นอกจากว่าเขาเป็นเด็กดี
กำลังโหลดความคิดเห็น