เอเอฟพี - รัฐบาลญี่ปุ่นจะเริ่มทำการค้ากับจีนผ่านสกุลเงินหยวน-เยนโดยตรง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่การค้าระหว่างสองประเทศจะกระทำผ่านสกุลเงินท้องถิ่น โดยไม่มีดอลลาร์สหรัฐเป็นสื่อกลาง ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมธุรกิจระหว่าง 2 มหาอำนาจทางเศรษฐกิจแห่งเอเชีย
จุน อาซูมิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น แถลงว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างปักกิ่งกับโตเกียว ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และ 3 ของโลกตามลำดับ จะส่งผลให้ระบบเทียบค่าเงินหยวน-เยนผ่านดอลลาร์สหรัฐถูกยกเลิกไป
นโยบายดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการค้าและการลงทุนระหว่างสองชาติซึ่งเป็นคู่แข่งกันมานาน ขณะที่สื่อญี่ปุ่นชี้ว่านอกจากดอลลาร์สหรัฐแล้ว รัฐบาลจีนไม่เคยอนุญาตให้สกุลเงินหลักอื่นๆ ค้าขายโดยตรงกับหยวนมาก่อน
“ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเยนกับหยวนจะขึ้นตรงกับตลาดของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะช่วยให้การค้าระหว่าง 2 ประเทศง่ายดายขึ้น” ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ อ้างถ้อยแถลงของอาซูมิ
เมื่อปราศจากดอลลาร์เป็นสื่อกลาง “เราจะลดต้นทุนธุรกรรม (transaction cost) และความเสี่ยงระหว่างการชำระดุลธุรกรรม (settlement risk) ของสถาบันการเงินต่างๆ ลงได้ และได้ใช้ประโยชน์จากสกุลเงินท้องถิ่นมากขึ้นด้วย” อาซูมิกล่าวเสริม
การค้าผ่านสกุลเงินเยน-หยวนจะเริ่มที่ตลาดโตเกียวและเซี่ยงไฮ้ ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
จีนช่วงชิงตำแหน่งมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกไปจากญี่ปุ่นได้เมื่อปี 2010 ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านทั้งสองก็ยังพยายามสานสัมพันธ์ทางธุรกิจ แม้จะมีข้อพิพาทว่าด้วยเขตแดนและภูมิหลังทางประวัติศาสตร์อยู่บ้างก็ตาม
เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โตเกียวได้รับอนุญาตให้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลจีนได้เป็นครั้งแรก ซึ่งจีนนั้นไม่อนุญาตให้นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรของตนได้โดยตรง แต่จะต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลเสียก่อน
ญี่ปุ่นซื้อพันธบัตรจีนล็อตแรกเป็นมูลค่า 65,000 ล้านหยวน (ราว 324,000 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าไม่มากนัก แต่ อาซูมิ ระบุว่า เป็นจำนวนที่เหมาะสมสำหรับการผูกสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในเบื้องต้น
ทั้งสองประเทศยังสนับสนุนการทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่นเพื่อลดความเสี่ยง เช่น การที่บริษัทญี่ปุ่นในจีนเข้าไปลงทุนโดยตรงผ่านสกุลเงินหยวน เป็นต้น
จีนพยายามแผ่อิทธิพลของเงินหยวนออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายระยะยาวให้หยวนกลายเป็นสกุลเงินหลักของโลกแข่งกับดอลลาร์สหรัฐ