เดลิเมล์ - ภรรยา 3 คนของอุซามะห์ บิน ลาดิน แกนนำเครือข่ายอัลกออิดะห์ยังคงจงรักภักดีต่อสามีอย่างถึงที่สุด โดยปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลใดๆ แม้จะถูกคาดคั้นสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ปากีสถาน หลังถูกจับกุมตัว
หญิง 3 คนนี้ถูกจับโดยกองกำลังรักษาความมั่นคงของปากีสถาน หลังหน่วยนาวิกโยธินพิเศษ ซีลส์ของสหรัฐฯ บุกสังหารบิน ลาดิน คาเซฟเฮาส์ในเมืองอับบอตตาบัต ซึ่งอยู่ห่างจากกรุง
อิสลามาบัดไปราว 35 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองปากีสถานรายหนึ่งเผยว่า เขาใช้เวลาหลายเดือนในการสอบปากคำพวกเธอเพื่อเค้นข้อมูลที่คุ้มค่า โดย อามาล อัล-ซอเดห์ เมียเด็กชาวเยเมน เป็นคนหัวแข็งที่สุด และแสดงท่าทีโกรธเกรี้ยวเมื่อถูกตั้งคำถาม ขณะที่เมียคนอื่นๆ ซึ่งเป็นชาวซาอุฯ แสดงความไม่พอใจด้วยการปิดปากเงียบเกือบตลอดเวลา
“พวกเธอทั้งหมดคิดถึงบ้านเมื่อไรก็ตามที่พวกเธอพูดถึงเขา” เจ้าหน้าที่ข่าวกรองคนดังกล่าวระบุ โดยว่าพวกเธอเหมือนจะสนับสนุนบิน ลาดิน อย่างแข็งขัน แม้เครือข่ายอัลกออิดะห์จะก่อเหตุรุนแรงนองเลือดไปทั่วโลก
“ผมรู้สึกได้ว่าอามาลมักจะโมโหทุกครั้งที่ผมพูดกับเธอ” เขาเสริม “เธอปฏิเสธที่จะถูกสอบปากคำ และแทบไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย” แต่บางครั้งเธอก็ดูเป็นคนยืดหยุ่น
“ครั้งหนึ่ง อามาลเคยเล่าว่า เธอและบิน ลาดิน นั้นชื่นชอบนักร้อง เช เกบารา เธอเหมือนเป็นคนหัวรั้น ผมเลยถามเธอเกี่ยวกับกลุ่มฝ่ายซ้ายในละตินอเมริกา ผมพบว่าเธอให้ความสนใจมาก” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเผย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่จะสามารถยืนยันคำกล่าวของเขาได้
ทั้งนี้ อามาล ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการบุกสังหารบิน ลาดิน ได้เดินทางไปยังอัฟกานิสถานเพื่อแต่งงานกับแกนนำอัลกออิดะห์ ตั้งแต่อายุ 18 ปี ในขณะที่เขามีอายุราว 40 ปี พ่อของเธอเคยให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อปี 2011
“ภรรยาคนอื่นๆ ก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก พวกเธอน่าเบื่อ” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเสริม โดยไม่ได้บอกว่าหญิงทั้ง 3 คนถูกสอบปากคำโดยเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นของปากีสถาน หรือเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ หรือไม่ และไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับคืนปฏิบัติการโจมตีเลย
หน่วยข่าวกรองรายนี้ซึ่งระบุว่าเขาได้สอบปากคำหญิงทั้ง 3 คนสัปดาห์ละครั้ง หรือสองครั้ง ระบุว่า เขาพยายามล้วงข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของแกนนำอาวุโสของเครือข่ายคนอื่นๆ โดยเฉพาะ อัยมาน อัล ซอวาฮิรี ผู้นำอัลกออิดะห์คนปัจจุบัน แต่ก็ต้องกลับออกมามือเปล่าเช่นกัน
ปากีสถานเนรเทศภรรยาม่ายทั้ง 3 คนของบิน ลาดิน พร้อมลูกๆ 11 คนออกจากประเทศ หลังกักขังพวกเธอเอาไว้ในความผิดฐานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และสั่งเนรเทศไปซาอุดีอาระเบียหลังพ้นโทษแล้ว