เอเอฟพี - อับเดลบาเซต อาลี โมห์เหม็ด อัล-เมกราฮี ผู้ต้องหาเพียงคนเดียวจากเหตุระเบิดเครื่องบินของสหรัฐฯ เหนือเมืองล็อกเคอร์บี เมื่อปี 1988 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 270 รายในลิเบีย วันอาทิตย์ (20) ที่ผ่านมา เป็นเวลาเกือบ 3 ปีหลังออกจากคุกด้วยความเวทนา
อับเดลฮาคิม อัล-เมกราฮี ผู้เป็นน้องชายกล่าวว่า เมกราฮี วัย 60 ปี เสียชีวิตในเวลาไม่นานหลัง 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของลิเบีย หรือราว 18.00 น.ตามเวลาในไทย หลังล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
ในปี 2001 ศาลสกอตแลนด์ตัดสินยืนตามศาลเนเธอร์แลนด์ ที่ให้เมกราฮีมีความผิดจริงฐานระเบิดเที่ยวบิน 103 สายการบินแพนแอมของสหรัฐฯ เหนือเมืองล็อกเคอร์บี ในสกอตแลนด์ ซึ่งคร่าชีวิตผู้ที่อยู่บนเครื่อง 259 ราย และบนพื้นดินอีก 11 ราย
หลังจากรับโทษจำคุกได้เพียง 8 ปีจากทั้งหมด 27 ปี เขาก็ได้รับการปล่อยตัวในปี 2009 เนื่องจากแพทย์ให้ความเห็นว่า เขาน่าจะมีชีวิตรอดอยู่ได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
การเสียชีวิตของคนร้ายรายนี้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาแตกต่างอย่างรุนแรง โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งไม่พอใจคำตัดสินปล่อยตัวของศาลสกอตแลนด์ ประกาศว่า การเสียชีวิตของเมกราฮีถือเป็นการสิ้นสุดช่วงเวลาอันโชคร้าย
ด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ กล่าวว่า เมกราฮี ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยสายการบินลิเบีย ไม่ควรได้รับการปล่อยตัวจากคุก และปฏิเสธข้อเรียกร้องใดๆ ที่ให้มีการไต่สวนความผิดของเขา
ทั้งนี้ เมกราฮียืนกรานมาโดยตลอดว่าเขาบริสุทธิ์ และสหรัฐฯ เป็นฝ่ายบีบบังคับให้มีการตัดสินโทษเขา ซึ่งอับเดลฮาคิมแก้ต่างแทนพี่ชายในวันอาทิตย์ว่า เมกราฮีเป็นเพียงแพะรับบาปแทนรัฐบาลโมอัมมาร์ กัดดาฟี เท่านั้น
หลายฝ่ายยังชี้ว่า คำตัดสินปล่อยตัวเมกราฮี และอนุญาตให้กลับลิเบียได้นั้น เป็นการปูทางเพื่อทำข้อตกลงทางธุรกิจน้ำมัน ที่ยังติดขัดของบริษัทน้ำมันอังกฤษ ยิ่งไปกว่านั้น ความจริงที่เขาสามารถรอดชีวิตได้นานกว่าที่แพทย์ประเมินไว้ ก็ยังสร้างความโกรธแค้นอย่างมากทั้งในอังกฤษ และสหรัฐฯ ด้วย